กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ (Top Executive Program in Commerce and Trade : TEPCoT) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเป็นหลักสูตรที่เน้นกระบวนการแลกเปลี่ยนความรู้และวิสัยทัศน์ระหว่างผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีประสบการณ์จริงในเรื่องเศรษฐกิจการค้า ในมิติต่างๆ มาผลัดเปลี่ยนเป็นผู้นำการเรียนรู้ ซึ่งทำให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตรต้องช่วยกันคิดวิเคราะห์เพื่อหาข้อสรุป หรือประเด็นอันเป็นประโยชน์ อันนำมาซึ่งการนำเสนอแผนยุทธศาสตร์ เกิดขึ้นจากแนวคิดร่วมมือระหว่าง หอการค้าไทย และ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งต่างเป็นองค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการค้าการพาณิชย์ และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นสถาบันที่มีศักยภาพด้านวิชาการด้านการค้าและการพาณิชย์ จึงได้เริ่มหลักสูตรนี้ขึ้นมาในปี 2551 และต่อมา กระทรวง อุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง เล็งเห็นความสำคัญของหลักสูตรฯ จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมในปี 2553 และเมื่อปี 2557 กระทรวงมหาดไทย ผู้ซึ่งเป็นเสมือนแรงสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการหลักสูตรนี้ ทั้ง 6 องค์กรนี้จึงเป็นรวมพลังและเสริมกันได้อย่างลงตัว
ปัจจุบันนี้หลักสูตรได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนมา 11 รุ่น รวมจำนวนผู้เข้าอบรมทั้งสิ้น1,040 คน เป็นภาครัฐและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 223 คน และภาคเอกชน 817 คน ผู้เข้าร่วมเรียนหลักสูตรในแต่ละปีมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในประเด็นและปัญหาต่าง ๆ ที่มีความสำคัญต่อการค้าและ การพาณิชย์ของไทยและสามารถต่อยอดแนวความคิดและเครื่องมือเพื่อ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยต่อไป อีกทั้ง TEPCoT ถือเป็นเวทีเชื่อมโยงแนวคิดจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เปิดให้ เกิดการระดมสมองที่จะแก้ปัญหาระดับประเทศได้อย่างบูรณาการ และด้วยเครือข่ายผู้บริหารระดับสูง จากแวดวงการค้าและการพาณิชย์ จะช่วยผลักดันนโยบาย และสร้างกลไกใหม่ ๆ ทางการค้าและการพาณิชย์
รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า "บทบาทของหอการค้าไทยและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในฐานะของภาคเอกชน เรามีความเชี่ยวชาญ ในฐานะผู้ปฎิบัติ และมีความเกี่ยวข้องกับการค้าการพาณิชย์โดยตรง เราได้มีการระดมสมอง ประชุมร่วมกันในกลุ่มคณะกรรมการหลักสูตร ซึ่งมีผู้แทนจากทั้ง 6 องค์กร เพื่อหยิบยกหัวข้อและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทย มาบรรจุในเนื้อหาหลักสูตรฯ อีกทั้งทางหอการค้าไทย ร่วมพิจารณาคัดเลือกสมาชิกและนักธุรกิจ จากเครือข่าย (หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัดและสมาคมการค้า) ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวมทั้ง นักธุรกิจที่มีชื่อเสียงและประสบผลสำเร็จเข้าร่วมอบรมในหลักสูตร TEPCoT"
"อย่างไรก็ตามหลักสูตรนี้ เน้นการเพิ่มพูนความรู้ให้กับผู้เข้าอบรม โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมเสนอแนวคิดเพื่อให้เกิดการเรียนรู้และมีการจัดทำแนวทางในการวางแผนเชิงยุทธศาสตร์ด้านการค้าและการพาณิชย์ นำประเทศไปสู่การเป็นผู้นำเศรษฐกิจเอเชียได้อย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อให้เข้าใจถึงความสำคัญของการค้าและการพาณิชย์ และสามารถร่วมกันในการกำหนดแนวนโยบาย สร้างกลไกใหม่ๆ ทางการค้า ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจและการวางแผนเชิงรุกของหน่วยงานสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชน" อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวทิ้งท้าย