กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 18 ตุลาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,218.40-1,224.18 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,970 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,990 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.53 น. ของวันที่ 18/10/61)
แนวโน้มวันที่ 19 ตุลาคม 2561
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับขึ้นสู่ 3.21% จนกลับมาเคลื่อนไหวใกล้จุดสูงสุดรอบ 7 ปี บริเวณ 3.26% ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 9 ต.ค. หลังจากเฟดมีการเปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการ FOMC ประจำเดือนก.ย.ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.รวมเป็น 4 ครั้งในปีนี้ ส่วนในปีหน้าเฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ตามที่เคยส่งสัญญาณไว้ แม้ว่าปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเห็นว่ามีการคุมเข้มมากเกินไปแล้ว ประเด็นดังกล่าวทำให้ดอลลาร์ได้รับแรงซื้อจนสร้างแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนในตลาดทองคำจับตารัฐบาลอิตาลีมีแนวโน้มที่จะเผชิญหน้ากับสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นที่อิตาลียืนกรานผลักดันแผนการขาดดุลงบประมาณปี 2561 ที่ 2.4% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายก่อนหน้านี้ที่ 1.9% ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงของอิตาลีระบุว่า ร่างแผนงบประมาณดังกล่าวของอิตาลีอาจถูกคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ปฏิเสธ ทั้งนี้ ร่างงบประมาณของอิตาลีสำหรับปีหน้า ซึ่งเพิ่มการใช้จ่ายด้านสวัสดิการ, ลดอายุเกษียณและเพิ่มการใช้จ่ายขาดดุล อาจจะละเมิดกฎการคลังของ EU ที่กำหนดให้อิตาลีลดหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูง และยังมีความเป็นไปได้ที่อิตาลีอาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ โดย มูดี้ส์ และ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส ในเดือนนี้ ปัญหาดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ นอกจากนี้ธนาคารกลางจีนกำหนดค่ากลางหยวนอย่างเป็นทางการในวันนี้ที่ 6.9275 หยวน ซึ่งเป็นระดับอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2560 โดยหยวนอ่อนค่าลง 0.19% มาที่ 6.936 หยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี การอ่อนค่าลงของเงินหยวนกระตุ้นให้ดอลลาร์แข็งค่ามากขึ้น จนเพิ่มแรงกดดันต่อราคาทองคำ เบื้องต้นต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนเหนือบริเวณแนวต้าน 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ หากสามารถยืนได้ราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านถัดไป 1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,227 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงทดสอบบริเวณโซนแนวรับ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ราคาทองคำพยายามพยุงราคาและพยายามตั้งฐานของราคา โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองคำเพื่อลงทุนระยะสั้นจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคาโซน 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,227-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้ การเข้าซื้อยังคงเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเข้าซื้อเฉพาะเมื่อราคาปรับตัวลงมาในบริเวณแนวรับ โดยตัดขาดทุน หรือ ลดการถือครองทองคำลงหากหลุดแนวรับโซน 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,214 (18,700บาท) 1,208 (18,600บาท) 1,197 (18,450บาท)
แนวต้าน 1,227 (18,900บาท) 1,235 (19,050บาท) 1,246 (19,200บาท)
GOLD FUTURES (GFV18)
แนวรับ 1,214 (18,830บาท) 1,208 (18,740บาท) 1,197 (18,570บาท)
แนวต้าน 1,227 (19,030บาท) 1,235 (19,160บาท) 1,246 (19,330บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999