กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--บี.กริม เพาเวอร์
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ปิดจ๊อบขายหุ้นกู้ 9,700 ล้านบาท หมดเกลี้ยง นักลงทุนให้ความเชื่อมั่น ตอบรับดีจากความแข็งแกร่งของแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีอนาคตสดใส และคุ้มค่าแก่การลงทุนรวมถึงอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสม ทำให้มียอดจองเกินกว่าสองเท่า พร้อมนำเงินรองรับแผนการลงทุนในอนาคตและรีไฟแนนซ์เงินกู้จากสถาบันการเงิน
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM เปิดเผยว่า "ตามที่บริษัทได้เสนอขายหุ้นกู้ชนิดไม่ด้อยสิทธิและไม่มีประกัน มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาทนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยแม้จะเป็นการเสนอขายหุ้นกู้หลังจาก IPO เป็นครั้งแรก ท่ามกลางสภาวะตลาดที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนและปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังคงได้รับผลตอบรับ จากผู้ลงทุนเป็นอย่างดี โดยมีผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่แสดงความจำนงในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทเกินกว่าที่บริษัทมีแผนเสนอขายถึง 2 เท่า ทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มยอดการเสนอขายหุ้นกู้เป็น 9,700 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้ลงทุนที่ให้ความเชื่อมั่นกับบริษัท"
โดยหุ้นกู้ชุดใหม่นี้มีจำนวน 4 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 2.81% จำนวน 500 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.12% จำนวน 2,700 ล้านบาท หุ้นกู้อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.49% จำนวน 1,500 ล้านบาท และหุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.36% จำนวน 5,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อมั่นในระดับ "A-" จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2561 ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวเสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ และมีกำหนดการจองซื้อในวันที่ 17-18 ตุลาคม พ.ศ.2561 และจัดออกหุ้นกู้ในวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ.2561 โดยมีธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) และธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้
นางปรียนาถ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางบริษัท ขอขอบพระคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจในการลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้ชำระหนี้เดิมของบริษัท และ/หรือ ใช้สำหรับการลงทุนของบริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของบริษัท หุ้นกู้ที่บริษัทจัดออกในครั้งนี้มีต้นทุนที่เหมาะสม และเชื่อมั่น ว่าเป็นการสร้างฐานนักลงทุน ทั้งผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ในอนาคต การสนับสนุนจากผู้ลงทุนในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบริษัท ทั้งด้านการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูงและ ยาวนานในธุรกิจ ความเป็นผู้นำด้านการดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงในประเทศไทยมายาวนานกว่า 140 ปี และจะเติบโตคู่กับประเทศไทยต่อไป