กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
- กำไรสุทธิ จำนวน 537.4 ล้านบาท
- กำไรก่อนภาษีเงินได้ จำนวน 736.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9
- รายได้จากการดำเนินงาน จำนวน 10,085.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5
ผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2561
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร ยังมิได้สอบทาน สำหรับงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 มีกำไรสุทธิจำนวน 537.4 ล้านบาท ลดลง 17.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.1 เมื่อเปรียบเทียบผลกำไรสุทธิของงวดเดียวกันปี 2560 ในขณะที่กำไรก่อนภาษีเงินได้เพิ่มขึ้นจำนวน 41.0 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.9 เป็นจำนวน 736.6 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงานร้อยละ 2.5 และการลดลงของสำรองหนี้สงสัยจะสูญร้อยละ 10.3 สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานร้อยละ 10.8 และการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิและรายได้อื่น ร้อยละ 2.4 และร้อยละ 7.4 ตามลำดับ
เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดเก้าเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 และ 2560 รายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2561 จำนวน 10,085.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวน 246.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.5 การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 338.4 ล้านบาท หรือร้อยละ 4.4 จากการขยายตัวของสินเชื่อ รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจำนวน 35.1 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.4 เกิดจากการเพิ่มขึ้น ของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการ รายได้อื่นลดลงจำนวน 56.7 ล้านบาท หรือร้อยละ 7.4 สาเหตุหลักมาจากการลดลงของกำไรสุทธิจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2561 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2560 เพิ่มขึ้นจำนวน 586.2 ล้านบาทหรือร้อยละ 10.8 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานซึ่งสอดคล้องกับ กลยุทธ์การขยายงานของธนาคารภายใต้โครงการ "Fast Forward" และขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขาย เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดเก้าเดือนปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 59.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 อยู่ที่ ร้อยละ 55.2
อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดเก้าเดือนปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 3.77 ลดลงจากงวดเดียวกันปี 2560 อยู่ที่ร้อยละ 3.88 เป็นผลจาก Yield on Earning Asset ลดลง
วันที่ 30 กันยายน 2561 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 219.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับเงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินบางประเภท) จำนวน 231.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.3 จากสิ้นปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 220.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารลดลงเป็นร้อยละ 95.0 จากร้อยละ 96.8 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560
สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 12.6 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ร้อยละ 5.7 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ร้อยละ 4.8 เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นในสินเชื่อด้อยคุณภาพของลูกค้าพาณิชย์ธนกิจในงวดเก้าเดือนปี 2561และการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560 อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 อยู่ที่ร้อยละ 94.1 เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 93.2 ณ วันที่ 30 กันยายน 2561 เงินสำรองของกลุ่มธนาคาร อยู่ที่จำนวน 11.8 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4.6 พันล้านบาท
เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 กันยายน 2561 มีจำนวน 43.8 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงร้อยละ 17.7 โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 12.4