กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 19 ตุลาคม 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,222.90-1,229.46ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาเพิ่มขึ้น 50 บาทต่อบาททองคำ จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,900บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.38 น. ของวันที่ 19/10/61)
แนวโน้มวันที่ 22 ตุลาคม 2561
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เพิ่มแรงกดดันต่อร่างงบประมาณปี 2562 ของรัฐบาลอิตาลี โดย EC ระบุในจดหมายถึงนายจิโอวานนี เทรีย รมว.เศรษฐกิจอิตาลีว่า แผนการใช้จ่ายของรัฐบาลสูงเกินไป, ยอดขาดดุลเชิงโครงสร้าง ซึ่งไม่รวมรายจ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและผลกระทบจากวงจรธุรกิจ จะเพิ่มขึ้น แทนที่จะลดลง และหนี้สินภาครัฐของอิตาลี จะไม่ลดลงสอดคล้องกับกฎของ EU ซึ่งการส่งจดหมายเตือนอย่างเป็นทางการเป็นขั้นแรกของกระบวนการที่อาจนำไปสู่การที่ EU จะปฏิเสธงบประมาณและสั่งปรับอิตาลี ประเด็นดังกล่าว กดดันสกุลเงินยูโรให้อยู่ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 1 สัปดาห์ ขณะที่ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของอิตาลีและเยอรมนีแตะระดับกว้างที่สุดในรอบ 5 ปีครึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จำเป็นต้องคุมเข้มอย่างมากในภาวะทางการเงิน เพื่อชะลอเศรษฐกิจสู่ระดับการเติบโตที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้โดยเร็ว และนั่นจำเป็นต้องมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดการณ์ โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอีก 5 ครั้งจนถึงสิ้นปี 2019 ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของตลาดถึง 2 ครั้ง ทำให้ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนเพิ่มมากขึ้น จนทองคำได้รับแรงกดดันเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำได้รับแรงหนุนตามการฟื้นตัวของสกุลเงินหยวนของจีน หลังเจ้าหน้าที่กำกับหลักทรัพย์ให้คำมั่นว่าจะสร้างความสงบต่อตลาดต่างๆและสนับสนุนบริษัทที่เผชิญความลำบาก โดยจีนยืนยันการสนับสนุนด้านนโยบายมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐ อย่างไรก็ดีราคาทองคำและสกุลเงินหยวนยังคงฟื้นตัวขึ้นอย่างจำกัด ซึ่งสกุลเงินหยวนกำลังเผชิญกับปัจจัยลบ 2 ทาง จากทั้งความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีน-สหรัฐ และสัญญาณเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำรักษาระดับเหนือโซน 1,221-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ราคาทองคำจะขยับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,234-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน เน้นการลงทุนระยะสั้น โดยวายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,221 หรือ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,234-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพราะหากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง แต่ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,221 (18,800บาท) 1,214 (18,700บาท) 1,208 (18,600บาท)
แนวต้าน 1,235 (19,050บาท) 1,246 (19,200บาท) 1,254 (19,350บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888