TIGER เสน่ห์แรง! มั่นใจเทรดวันแรกมอบความสุขให้ทุกคน อวดผลงานท็อปฟอร์ม โตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี โชว์งานทะลักเข้าต่อเนื่อง-จ่อประมูลโครงการใหม่อีกเพียบ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday October 22, 2018 12:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง TIGER มั่นใจเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 24 ต.ค.นี้ หุ้นยืนเหนือราคาจอง แจกความสุขให้กับนักลงทุน เหตุกระแสตอบรับจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยความต้องการแรงเว่อร์ อวดรายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อปี กำไรแรงทะลุมิติ ปัจจุบันบริษัทมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และเล็งเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ จากภาครัฐ-เอกชนอีกเพียบ มั่นใจหนุนผลงานในปี 2562 โตก้าวกระโดด นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)(TIGER) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC ) เชื่อมั่นว่าหุ้น TIGER ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ จะสามารถยืนเหนือราคาเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ที่หุ้นละ 3.65 บาท เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตก้าวกระโดดต่อเนื่อง ประกอบกับมีผู้บริหาร และบุคลากรที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญในธุรกิจรับเหมาและออกแบบมายาวนาน ทั้งนี้ TIGER ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยในปัจจุบันบริษัทฯ มีการถือหุ้น 99.99% ในบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC )หรือ บริษัทแกน ซึ่งเป็นบริษัทแกน (Core Company) ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภทรวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม (Construction Contractor – Build & Design) นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจสนับสนุนงานรับเหมาก่อสร้าง ได้แก่ 1) ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียม สำหรับงานสถาปัตยกรรมและงานตกแต่งดำเนินการโดย บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด หรือ TEA และ 2) ธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งจัดหาและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างอื่นๆ ดำเนินการโดย บริษัท ทีอี แมค จำกัด หรือ TEM ส่วนผลการดำเนินงานย้อนหลังในปี 2558-2560 และ 6 เดือนแรกของปี 2561 กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.29 ล้านบาท 36.65 ล้านบาท 67.74 ล้านบาท และ 31.30 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นการเติบโตของกำไรสุทธิที่ 294.72% ในปี 2559 และ 84.82% ในปี 2560 และ 20.38% เมื่อเทียบ 6 เดือนแรกของปี 2561 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเมื่อพิจารณาเป็นอัตรากำไรสุทธิ กลุ่มบริษัทมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 2.51% 7.40% 10.99% และ 8.85% ในปี 2558-2560 และ 6 เดือนแรกของปี 2561 ตามลำดับ "ที่ผ่านมาผลการดำเนินงานของ TIGER เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้รวมเพิ่มขึ้นเฉลี่ยกว่า 30% ต่อปี ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ในระดับสูง เป็นตัวเลข 2 หลักมาโดยตลอด หรือเฉลี่ยประมาณ 16-18% และที่สำคัญงานที่เรารับส่วนใหญ่จะเป็นงานที่มาร์จิ้นอยู่ในระดับสูง เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใช้ทีมงานที่มีประสบการณ์ ทำให้ลูกค้าแนะนำปากต่อปาก ซึ่งหลังจากที่ TIGER ได้รับเงินจากการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ จะยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าประมูลงานใหม่ๆ ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด" ปัจจุบันบริษัทมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลงานใหม่ๆ อีกหลายโครงการทั้งภาครัฐ และเอกชน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้ โดยปัจจุบันสัดส่วนงานภาคเอกชนและภาครัฐอยู่ที่ 60:40 ซึ่งในอนาคตวางเป้าหมายงานภาคเอกชนและภาครัฐ อยู่ที่ 50:50 เพื่อกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ นายรัฐชัย ธีระธนาวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม สายงานวาณิชธนกิจ-ด้านตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TIGER) มั่นใจว่าTIGER จะกลายเป็นหุ้นน้องใหม่ ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุน เนื่องจากในอนาคตมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะในส่วนของงานภาครัฐ จากการที่รัฐบาลมีโยบายขยายการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งบริษัทฯเตรียมเข้าประมูลงานใหม่เป็นจำนวนมาก โดยมีหลายโปรเจคที่เตรียมประกาศผลในเร็วๆนี้ ผลักดันผลงานในปี 2562 เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งนี้ หุ้น TIGER จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ในวันที่ 24 ตุลาคม 2561 นี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ