กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--สำนักงาน กปร.
พลเอก กัปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเป็นประธานการประชุมติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในเขตพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีผู้บริหาร เจ้าหน้าที่สำนักงาน กปร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ทั้งนี้เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และการติดตามขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ผ่านมารวมทั้งผลการดำเนินงานและความก้าวหน้าโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ได้สร้างประโยชน์สุขให้กับราษฎร
โอกาสนี้ องคมนตรี กล่าวเปิดการประชุม โดยมีนายลลิต ถนอมสิงห์ รองเลขาธิการ กปร. กล่าวถึงการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ในเขตพื้นที่ภาคใต้มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ กันยายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,741 โครงการ สำหรับพื้นที่ภาคใต้ มีโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริรวม 912 โครงการ ในเขตพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีจำนวน 66 โครงการ แยกตามประเภทคือด้านแหล่งน้ำ 53 โครงการ ด้านสิ่งแวดล้อม 4 โครงการ ด้านการส่งเสริมอาชีพ 1 โครงการ ด้านสวัสดิการสังคม การศึกษา 4 โครงการ และด้านบูรณาการ อื่นๆ 4 โครงการ สำหรับการติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ยังไม่ได้ดำเนินการในเขตพื้นที่ภาคใต้ จำนวน 14 โครงการ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณแล้ว จำนวน 6 โครงการ อยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 4 โครงการ รวมทั้งยังติดปัญหาด้านต่างๆ อีกจำนวน 4 โครงการ จากนั้นผู้แทนกรมชลประทานได้รายงานสรุปผลการดำเนินงาน สภาพปัญหา ตลอดจนแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบด้วย 1) โครงการอ่างเก็บน้ำทำนบ 1 อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 2) โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสังข์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 3) โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหาแนวทาง พร้อมให้ข้อเสนอแนะในการขับเคลื่อนโครงการให้แล้วเสร็จสมบูรณ์เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับราษฎรต่อไป
จากนั้นในช่วงบ่ายคณะ เดินทางไปติดตามตรวจเยี่ยมและพบปะราษฎรที่ได้รับประโยชน์จากโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตำบลวังอ่าง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้พระราชทานวินิจฉัยเกี่ยวกับโครงการชลประทานในเขตจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2521 ความว่า "โครงการเขื่อนเก็บน้ำห้วยน้ำใส เป็นโครงการระยะยาวต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี ฉะนั้นควรพิจารณาก่อสร้างฝายทดน้ำ หรือเขื่อนทดน้ำคลองไม้เสียบ (ห้วยน้ำใสตอนล่าง) พร้อมระบบส่งน้ำเร่งด่วนก่อน เพื่อส่งน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกสองฝั่งคลองไม้เสียบก็จะช่วยสนับสนุนโครงการชลประทานฝายคลองไม้เสียบให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น" กรมชลประทานจึงได้เริ่มก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใสในปี 2534 แล้วเสร็จในปี 2539 สามารถเก็บกักน้ำสูงสุดได้ถึง 93.60 ล้านลูกบาศก์เมตร ช่วยเหลือพื้นที่เกษตรในเขตพื้นที่ชลประทานได้แก่ ฝายคลองไม้เสียบ จำนวน 66,502 ไร่ นิคมสร้างตนเองควนขนุน จำนวน 19,500 ไร่ และส่งน้ำให้กับพื้นที่รับประโยชน์บ้านควนมีชัย ตำบลวังอ่าง อำเภอชะอวด จำนวน 1,800 ไร่ นอกจากนี้ยังเป็นต้นน้ำของลุ่มน้ำปากพนังอีกด้วย