กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--สนามหลวงมิวสิก
"เวลาพูดถึงชาวร็อก สีที่คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงก็คือสีดำ เราเองก็ชอบสีดำนะ แต่งตัวก็เป็นโทนสีนี้กัน แต่เราต้องการนำเสนอว่าชาวร็อกไม่จำเป็นต้องดูโหดหรือเป็นชาวร็อกเสื้อดำเสมอไป เราอยากให้วงเราเป็นชาวร็อกแบบที่เข้าถึงได้ เลยใช้ชื่อ Everose ซึ่งเป็นชื่อรหัสสำหรับสีพิงก์โกลด์ ของนาฬิกายี่ห้อดัง" สี่หนุ่มสายร็อก ครีม-ธัญเทพ เหล่าทรัพย์ทวี (ร้องนำ), บุ๊ค-พฤกษ์ วรรณพฤกษ์ (กีตาร์), เตอร์-กิจฏิพัฒน์ สุวราห์วรรณ (กีตาร์) และ นาม-ธาวิช ธรดุษฎี (กลอง) เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงที่มาของชื่อวงที่ดูคอนทราสต์กับแนวเพลง
ทั้งสี่คนเป็นนักศึกษาจากสามมหาวิทยาลัยที่มารวมตัวกันได้เพราะความฝันในการทำเพลงที่ตรงกัน แม้รายละเอียดวงดนตรีที่แต่ละคนชอบอาจจะต่างกันอยู่บ้าง แต่ความต่างนั้นก็กลายเป็นจุดที่สร้างความน่าสนใจให้กับดนตรีของพวกเขา อย่างเช่นการร้องที่มีกลิ่นอายของกรันจ์ยุคเก่า ผสมกับวิธีการคิดดนตรีแบบโมเดิร์น รวมถึงการใส่ซาวนด์สังเคราะห์ลงไปในเพลง "ตัวตน" ซึ่งเป็นซิงเกิลเปิดตัวของพวกเขา ภายใต้สังกัดสนามหลวงมิวสิก
"เราเล่นเพลงร็อกเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ายุคนี้เพลงที่มี synthesizer มีเยอะมาก จนผมยกให้เป็นเมนสตรีม ณ ชั่วโมงนี้เลย เราเล่นดนตรีหนักแล้วใช้ซินธ์เก่าแบบปลายยุค 1980s-1990s มาทับ ซึ่งพี่หนุ่ม วง Nobuna (ชนน รัตนวิโรจน์) โปรดิวเซอร์ของเราเรียกว่า ซินธ์ Rockman เพราะมันคือซาวนด์เหมือนในเกมนั้นเลย เป็นซาวนด์แบบเพลงป็อป เพลง 'ตัวตน' ก็เลยมีความเป็นร็อกซินธ์" บุ๊คอธิบายส่วนผสมในเพลงแรกของ Everose
ทั้งที่รู้ว่าเพลงช้า เนื้อหาพูดถึงความรักอย่างตรงไปตรงมา อาจจะมีโอกาสติดหูคนฟังมากกว่า แต่ Everose ก็เลือกที่จะแนะนำตัวกับคนฟังด้วยเพลงที่บ่งบอกตัวตนของวงมากที่สุด ทั้งเนื้อหาที่สื่อถึงความเป็นตัวเองและดนตรีที่มีความหนักแน่น ชวนโยกหัวไปตามจังหวะ ซึ่งถ่ายทอดผ่านเสียงร้องของครีมที่ตีความเพลงนี้ในการร้องว่า "สำหรับผมมันสื่อถึงการที่ทุกคนอาจจะถูกตีกรอบจากคนรอบตัว แต่จริงๆ เรามีความเป็นตัวของเราเองอยู่ ไม่ได้จำเป็นต้องทำตามกรอบ เรามีอะไรที่พิเศษกว่านั้น แล้วนี่ก็คือตัวตนที่เราอยากจะถ่ายทอดออกมา ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นตัวตนที่ดีที่สุดของเรา"
ช่วงก่อนพ้นจากรั้วมหาวิทยาลัยเป็นช่วงวัยที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างการเดินตามความฝัน หรือจะเลือกเดินทางในแบบ safe zone และเก็บเรื่องดนตรีไว้เป็นเพียงงานอดิเรก Everose เองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ต้องตัดสินใจ เพราะทุกคนผูกพันกับเสียงเพลงมาตั้งแต่เด็กและสะสมความมุ่งมั่นมาตั้งแต่ยังเป็นนักเรียน
เริ่มตั้งแต่ครีมที่มีความฝันอยากเป็นนักร้องมาตั้งแต่ ป.3 หลังจากได้ดูคอนเสิร์ตของ Bodyslam, บุ๊คที่เริ่มเรียนเปียโนมาตั้งแต่ตอนเป็นเด็กอนุบาล ก่อนหันมาจับกีตาร์ไฟฟ้าตอนมัธยม และทำงานพาร์ตไทม์เป็นเทคนิเชียนให้กับวงดนตรีดังอย่าง Getsunova และ Sweet Mullet มาตั้งแต่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย, เตอร์ที่เริ่มจากเปียโนเช่นกัน แล้วจึงค่อยตามด้วยการฝึกกีตาร์เอง และนามที่ประทับใจการตีกลองของ เคน วง Zeal จนขยับจากเปียโนที่เล่นมาตั้งแต่ 3 ขวบ มาจับไม้กลองและถึงขนาดที่ได้เป็นตัวแทนไปแข่งดรัมไลน์ไกลถึงอเมริกา
"คนวัยเดียวกันกับเราที่อยากเป็นศิลปินมีอยู่เยอะ แต่ผมว่ามันอยู่ที่อุดมการณ์ของแต่ละคนว่าหนักแน่นแค่ไหน บางคนเล่นเก่งมาก แต่ติดอยู่กับความคิดว่า ทำอะไรก็เกิดยาก ก็เลยไม่เลือกที่จะไม่ทำต่อ ผมว่าโลกทุกวันนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเป็นคนเก่งหรือไม่เก่ง แต่อยู่ที่ว่าเรามีความหนักแน่นกับมันแค่ไหน" ครีมพูดถึงความฝันในการเป็นศิลปิน ซึ่งเป็นความฝันร่วมของวัยรุ่นอีกมาก โดยมีบุ๊คช่วยเสริมว่า "พอฝันแล้วเราก็อยากจะลองทำมันให้ได้ คำพูดที่บอกว่า ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง มันเลยเป็นสิ่งที่ผลักดันเรามาตลอดจนถึงจุดนี้ครับ"
ติดตาม มิวสิควิดีโอ " ตัวตน " ได้ทางยูทูปสนามหลวงมิวสิก >> https://youtu.be/9i9CiLeQcjg
Download iTunes ได้ที่ >> https://itunes.apple.com/th/album/ต-วตน-single/1437987491
และติดตามข่าวสารความเคลื่ อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/everoseband/ ; https://www.facebook.com/ SanamluangMusicOfficial/
ฟัง เพลง " ตัวตน " ผ่าน YouTube, Apple Music, JOOX, Spotify สถานีวิทยุและโทรทัศน์ทั่วประเทศ