กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องด้วยปัจจุบัน พื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยได้ลดจำนวนลงอย่างมาก เนื่องจากอดีตที่ผ่านมาพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศถูกบุกรุกและเปลี่ยนสภาพไปเพื่อการใช้ประโยชน์ต่างๆ จนทำให้พื้นที่ป่าชายเลนลดลง สำหรับอัตราการลดลงของพื้นที่ป่าชายเลนนั้นอยู่ในอัตราค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ป่าชายเลนทั้งประเทศ จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าชายเลนโดยการแปลภาพถ่ายทางอากาศในปี พ.ศ. 2504 มีป่าชายเลนทั้งหมดประมาณ 3,679.00 ตารางกิโลเมตร และลดลงต่อเนื่องลงมาทุกๆ ปี ในปี 2518 ปรากฏว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนเหลือประมาณ 3,127.32 ตารางกิโลเมตร ปี 2528 มีเนื้อที่ป่าชายเลนเหลืออยู่ 2,686.96 ตารางกิโลเมตร ปี 2539 พบว่าพื้นที่ป่าชายเลนของประเทศเหลืออยู่ 1,675.82 ตารางกิโลเมตร และจากการสำรวจล่าสุดปี 2547 พบว่า ป่าชายเลนของประเทศไทยมีเนื้อที่ 2,758.05 ตารางกิโลเมตร โดยมีหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ป่าชายเลนได้มีการรณรงค์ปลูกป่าโกงกางทดแทนเพื่อให้พื้นที่ป่าชายเลนกลับมา แม้ว่าจะไม่สามารถทดแทนได้ทั้งหมดแต่ก็สามารถช่วยให้พื้นที่ป่าชายเลนของประเทศไทยเพิ่มขึ้น ทำให้มีพื้นที่ป่ามากขึ้นกว่าช่วงปี 2522-2528 ซึ่งเป็นช่วงที่มีอัตราการทำลายป่าชายเลนสูงที่สุด
ล่าสุด TCL Thailand นำโดยนายทอมมี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และคณะผู้บริหารพร้อมพนักงานจิตอาสา รวมกว่า 80 ชีวิต ร่วมสานต่อกิจกรรมแคมเปญ "TCL BIG SHARE Season 3" โดยปีนี้ ได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้แนวคิด "Grow Green ช่วยกันคืนผืนป่า สร้างสีเขียวให้กับโลก" เพื่อร่วมฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้วยกิจกรรมปลูกป่าโกงกางและฟื้นฟูสภาพป่าชายเลน รวมถึงปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำคืนชีวิตสู่ธรรมชาติ ภายใต้สโลแกนปล่อยร้อยคอยจับล้าน เพื่อสร้างความยั่งยืนของระบบนิเวศน์ทางธรรมชาติ ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
นายทอมมี่ หยาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีซีแอล อิเล็กทรอนิกส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า "TCL Thailand ในฐานะบริษัทผู้จัดจำหน่ายโทรทัศน์แบรนด์ TCL ในประเทศไทย มีนโยบายมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้า บริการ รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ และเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์สังคมไทย ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งของในการทำความดีตามแนวพระราชดำริฯ สานต่อแคมเปญ "TCL BIG SHARE Season 3" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้ พนักงานทุกคนมีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในการมอบความอุดมสมบูรณ์สีเขียวคืนกลับสู่ธรรมชาติ และเข้าใจถึงความสำคัญของป่าชายเลนมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุกคนสามารถช่วยได้ไม่ยาก แต่กลับก่อให้เกิดผลลัพธ์และประโยชน์มากมายเพราะป่าชายเลนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของชายฝั่งทะเลและนับเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่ามหาศาลทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมของประเทศ"
นอกจากนี้ พนักงานจิตอาสาทุกคนยังได้รับความรู้มากมายจากวิทยากรอุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร ในเรื่องของประวัติความเป็นมาของอุทยานฯ ความสำคัญของป่าชายเลน เช่น ไม้ในป่าชายเลนมีอัตราการสังเคราะห์แสงสูงจึงช่วยลดปริมาณก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มปริมาณออกซิเจน ทำให้อากาศสดชื่น ที่สำคัญป่าชายเลนยังเป็นพื้นที่สำหรับดูดซับสิ่งปฏิกูลต่างๆ รากของต้นไม้ในป่าชายเลนที่งอกออกมาเหนือพื้นดิน จะทำหน้าที่คล้ายตะแกรงธรรมชาติ คอยดักกรองสิ่งปฏิกูลต่างๆ และสารมลพิษต่างๆ จากบนบกไม่ให้ลงสู่ทะเล โลหะหนักหลายชนิด เมื่อถูกพัดพามาตามกระแสน้ำ ก็จะตกตะกอนลงที่บริเวณดินเลนในป่าชายเลน นอกจากนั้นขยะ และคราบน้ำมันต่างๆ ก็จะถูกดักกรองไว้ในป่าชายเลน รวมถึงต้นไม้ที่มีพิษในป่าชายเลนด้วย
ปัจจุบันสภาพป่าชายเลนในเขตพื้นที่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศมากขึ้น ประกอบไปด้วยพันธุ์ไม้ป่าชายเลนหลากหลายชนิด ได้แก่ โกงกางใบเล็ก โกงกางใบใหญ่ ตะบูน ตะบัน ตาตุ่มทะเล โพทะเล จิกทะเล ปรงทะเล ขลู่ ฯลฯ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะนกนานาชนิด ทั้งนกประจำถิ่นและนกอพยพ กลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติ สำหรับศึกษาระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลนได้อีกแห่งหนึ่ง และช่วยปลุกจิตสำนึกให้ตระหนักถึงคุณประโยชน์อันมหาศาลของป่าชายเลน ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ไว้