กรุงเทพฯ--7 ม.ค.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
NZI ประกันภัยในเครือ ไอเอจี ประกันภัย ได้ฤกษ์คลอดกรมธรรม์ประกันภัยบ้านแบบครบวงจร เน้นขายลูกค้าต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในไทย ซึ่งต้องการความคุ้มครองที่อยู่อาศัยรวมถึงทรัพย์สินในกรมธรรม์เดียว มั่นใจสามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าชาวต่างชาติได้อย่างครอบคลุม
นายสุรชัย รัถยาวิศิษฏ์ ผู้จัดการทั่วไปส่วนรับประกันภัยและพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไอเอจี ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกกรมธรรม์ประกันภัย “บ้านอุ่นรัก” (Comprehensive Home Insurance) ที่ให้ความคุ้มครองที่หลากหลาย ให้ลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ด้วยตนเอง โดยมีความคุ้มครองให้เลือกตั้งแต่ความคุ้มครองตัวบ้าน สิ่งของภายในบ้าน สิ่งของที่นำติดตัวออกนอกบ้านเวลาเดินทางซึ่งครอบคลุมถึงการเดินทางทั่วโลก รวมถึงการที่ผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านได้สร้างความเสียหายให้เกิดกับผู้อื่นโดยอุบัติเหตุ รวมถึงคุ้มครองแรงงานลูกจ้าง และคนขับรถอีกด้วย
ทั้งนี้ ประกันภัย “บ้านอุ่นรัก” (Comprehensive Home Insurance) ได้ถูกออกแบบมาโดยอาศัยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการรับประกันภัยของกลุ่มบริษัท ไอเอจี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านธุรกิจประกันวินาศภัยในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษ และในภูมิภาคเอเชีย มีประสบการณ์ในการรับประกันภัยบ้านเรือนในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ กว่า 2.5 ล้านหลัง โดยแผนประกันภัย “บ้านอุ่นรัก” (Comprehensive Home Insurance) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าชาวต่างชาติที่ต้องการความคุ้มครองแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยกลุ่มบริษัทฯ ได้อาศัยศักยภาพทางการเงินที่เข้มแข็ง รวมถึงประสบการณ์ในการรับประกันภัยมาอย่างยาวนานช่วยสร้างความได้เปรียบในตลาดนี้ นอกจากนี้เรายังได้เล็งเห็นการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับชาวต่างชาติในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม บ้านเช่า และบ้านพักตากอากาศ ผลที่ตามมาคือความต้องการรูปแบบประกันภัยที่เหมาะสำหรับชาวต่างชาติที่เช่าหรือซื้อที่พักอาศัยในประเทศไทย ซึ่งต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมในทุกด้าน
“จากสถิตินับตั้งแต่ปี 2545 ได้แสดงให้เห็นจำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัย และทำงานในประเทศไทยมีแนวโน้มสูงขึ้น ประกอบกับราคาของที่อยู่อาศัยที่ชาวต่างชาติสามารถครอบครองได้ อาทิ คอนโดฯ ยังมีราคาถูก เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศใกล้เคียง รวมถึงข้อจำกัดทางด้านกฎหมายสำหรับผู้ซื้อชาวต่างชาติที่มีน้อยกว่าประเทศอื่น ทำให้ตลาดคอนโดฯ ของไทยยังน่าสนใจสำหรับนักลงทุนชาวต่างชาติ จะเห็นได้จากสถิติการจดทะเบียนอาคารชุดในปี 49 เทียบกับปี 48 มีการขยายตัวเกือบ 3 เท่า โดยกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ไทยมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ สิงคโปร์ ซึ่งพบว่าเป็นสัดส่วนลูกค้ามากถึง 50% เนื่องจากราคาอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดฯ ในสิงคโปร์มีราคาสูงมาก นอกนั้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติอื่นๆ ก็ได้เริ่มให้ความสนใจเข้ามาซื้อคอนโดฯ ในแหล่งท่องเที่ยวมากขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณที่ดีต่อการประกันภัยที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการประกันภัยบ้าน “บ้านอุ่นรัก” (Comprehensive Home Insurance) ที่ได้ออกแบบมาสำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ก็น่าจะส่งผลให้มีการเติบโตตามไปด้วย” นายสุรชัยกล่าวสรุป