กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท
เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท เครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก เซ็นสัญญากับบริษัท โดจิ แลนด์ เรียลเอสเตท จำกัด (Doji Land Real Estate Investment Company Limited) พัฒนา โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพรีเมียร์ แซฟไฟร์ ฮาลอง (Best Western Premier Sapphire Ha Long) โรงแรมระดับอัพสเกล ท่ามกลางทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวฮาลอง (Halong Bay) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก (UNESCO World Heritage Site) การเซ็นสัญญาครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนกลยุทธ์ขยายธุรกิจในเวียดนามของเบสท์เวสเทิร์น ต่อเนื่องจากการเซ็นสัญญาพัฒนาโรงแรมหลายแห่งในเมืองสำคัญๆ ของเวียดนาม อาทิ นาตรัง กวางบินห์ คัมรานห์ และเกาะฟูโกว๊ก
โรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ภายใต้การพัฒนาของบริษัท โดจิ แลนด์ เรียลเอสเตท จำกัด โดยมีกำหนดเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2563 โรงแรมประกอบด้วยอาคาร 31 ชั้น ที่มองเห็นวิวอ่าวฮาลองอย่างชัดเจน เมื่อพร้อมเสร็จจะให้บริการห้องพักมากกว่า 1,000 ห้อง มร. รอน โพล ประธานกรรมการอาวุโส และประธานฝ่ายปฏิบัติการ เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งกับการเซ็นสัญญาเพื่อพัฒนาเบสท์เวสเทิร์นพรีเมียร์ แซฟไฟร์ ฮาลอง ซึ่งเป็นโอกาสในการนำการบริการที่มีมาตรฐานระดับสูงของเบสท์เวสเทิร์นสู่แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งในเอเชีย ด้วยการบริการอย่างมืออาชีพของทีมงานเบสท์เวสเทิร์น เรามั่นใจว่าผู้เข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้จะได้รับประสบการณ์การพักผ่อนอันน่าประทับใจ"
โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพรีเมียร์ แซฟไฟร์ ฮาลอง ได้รับการออกแบบเพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด ห้องพักของโรงแรมจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 35 ตารางเมตรขึ้นไป แบ่งเป็นห้องพักแบบห้องเดี่ยวและสองห้องติดกัน ภายในห้องพักตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และมีระเบียงส่วนตัวที่สามารถมองเห็นทัศนีภาพอันงดงามของอ่าวฮาลอง โรงแรมแห่งนี้สามารถรองรับนักเดินทางทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือนักท่องเที่ยว ผู้เข้าพักที่จะได้รับประสบการณ์การบริการตามมาตรฐานของเบสท์เวสเทิร์น อีกทั้งเพลิดเพลินกับการใช้บริการที่สระว่ายน้ำ ฟิตเนส บิซสิเนสเซ็นเตอร์ เอ็กเซ็คคิวทีฟเลาจน์ ร้านอาหารที่มีเมนูอาหารหลากหลายให้เลือก รวมถึงคาเฟ่และบาร์ที่คอยบริการเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นตลอดเช้าจรดค่ำ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าต่างๆ โดยรอบ เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการช็อปปิ้งอีกด้วย
มร. โอลิเวียร์ แบร์ริแวง ผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายปฏิบัติการ ภูมิภาคเอเชีย เบสท์เวสเทิร์น โฮเทลแอนด์รีสอร์ท กล่าวว่า "เบสท์เวสเทิร์นพรีเมียร์ แซฟไฟร์ ฮาลอง เป็นโรงแรมที่มอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างมีมาตรฐานสำหรับผู้ที่เดินทางมายังอ่าวฮาลอง ซึ่งเป็นหนึ่งในมรดกทางธรรมชาติของโลก และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของเวียดนามที่กำลังได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก เรามั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของวิวทิวทัศน์เมื่อเข้าพักที่โรงแรมนี้อย่างแน่นอน"
"เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ บริษัท โดจิ แลนด์ เรียลเอสเตท จำกัด ในการพัฒนาโรงแรมแห่งนี้ การเซ็นสัญญาครั้งสำคัญนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการขยายธุรกิจของเบสท์เวสเทิร์นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบริการมามากกว่า 70 ปี อีกทั้งการมีเครือข่ายของทีมงานที่อยู่ทั่วโลก ทำให้เราเชื่อมั่นว่าโรงแรมแห่งนี้จะสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้มาใช้บริการได้เป็นอย่างดี" มร. แบร์ริแวง กล่าวเสริม
อ่าวฮาลอง ตั้งอยู่ในจังหวัดกว่างนิงห์ (Quang Ninh) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม โดยมีจุดเด่น คือ เกาะหินปูนที่โผล่ขึ้นมาจากผิวทะเลเกือบ 2,000 แห่ง บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ด้วยความความสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สวยงามของอ่าวฮาลอง ทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบกิจกรรมผจญภัยต่างๆ อาทิ นั่งเรือชมเกาะ สำรวจถ้ำ และพายเรือคายัค จากสถิติ พบว่ามีผู้เดินทางมายังจังหวัดกว่างนิงห์ ในช่วงเดือน มกราคม – มิถุนายน พ.ศ. 2561 เป็นจำนวนกว่า 7.5 ล้าน โดยเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 14% ทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากความสะดวกสบายด้านการเดินทาง จากการเปิดให้บริการทางหลวงใหม่ ทำให้สามารถขับรถจากฮานอยมายังกว่างนิงห์ โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง และการเตรียมเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเวินโด่น (Van Don International Airport) ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2561 ซึ่งอยู่ห่างจากฮาลองซิตี้ ไปเพียง 50 กิโลเมตร