กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--คอมมิวนิเคชั่น อาร์ต
ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการประจำไตรมาส 3 "Fortinet Thailand Q3 Partner Workshop" ที่ได้จัดให้กับพันธมิตรด้านการขายไปเมื่อเร็วๆ นี้ ฟอร์ติเน็ตเน้นถึงแนวโน้มปัจจุบันที่ผู้บริหารระดับซี (C-level) ทั้งหลายต่างให้ความสนใจในการเตรียมพร้อมการป้องกันภัยไซเบอร์มากขึ้น ทั้งนี้ ผู้บริหารระดับสูง 92% ในองค์กรกว่า 300 แห่งทั่วโลกที่ตอบแบบสอบถามด้านการปฏิรูประบบดิจิทัลประจำปีคศ. 2018 ยอมรับว่า องค์กรกำลังเลือกเทคโนโลยีคลาวด์ ไอโอที โมบิลิตี้ในการปฏิรูประบบดิจิทัล และใช้เทคโนโลยี IIOT เชื่อมโยงภาคอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบให้ผู้บริหารด้านไอทีและความปลอดภัย (CISOs) จำเป็นต้องสามารถพิสูจน์ถึงผลประโยชน์ด้านธุรกิจจากการลงทุนและพิสูจน์ประสิทธิภาพของระบบความปลอดภัยไซเบอร์ได้ ในโอกาสนี้ ฟอร์ติเน็ตได้เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่อาทิ ฟอร์ติเกต เอสดี-แวน ฟอร์ติพร็อกซี่ ฟอร์ติแนค ฟอร์ติไคลเอนท์ที่จะทำงานประสานกันช่วยให้องค์กรมีการเชื่อมต่อเครือข่ายไปยังทุกที่นอกองค์กรที่ปลอดภัย สามารถพิสูจน์ความคุ้มค่าและประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง โดยมีพันธมิตรสนใจเข้ารับการอบรมครั้งนี้มากกว่า 200 ท่าน
ในขณะที่องค์กรกำลังเลือกเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้แก่คลาวด์ ไอโอที โมบิลิตี้เชื่อมธุรกิจนั้น ระบบรักษาความปลอดภัยเดิมนั้นจะไม่สามารถให้การป้องกันได้เพียงพอ อ้างอิงจากแบบสอบถามการปฏิรูประบบดิจิทัลประจำปีคศ. 2018 มีผู้ตอบจำนวน 85% ยอมรับว่าการรักษาความปลอดภัยเครือข่าย (Security) เป็นอุปสรรคในการปฏิรูประบบดิจิทัลซึ่งส่วนใหญ่มาจากการทำงานของระบบไอทีที่แตกต่างและช่องโหว่ที่เกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการปฏิรูป นอกจากนี้ ในระดับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำประปาใช้เครือข่ายประเภทโอที (Operational Technology) ซึ่งเป็นระบบปิดที่มีการใช้งานเฉพาะในอุตสาหกรรมนั้นๆ ให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย (Safety) ต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นหลัก ดังนั้น ทั้งองค์กรและอุตสาหกรรมสมัยใหม่จึงต้องการทั้งความปลอดภัยและความต่อเนื่องในการทำงานของระบบต่างๆ ในเครือข่าย ในขณะที่จะต้องสามารถพิสูจน์ความคุ้มค่าในการลงทุนได้
ในการตอบสนองความต้องการดังกล่าวจะต้องอาศัยโซลูชั่นด้านความปลอดภัยชั้นสูง ที่ได้รับการพิสูจน์และคำแนะนำจากผู้ทดสอบอุปกรณ์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ฟอร์ติเน็ตมั่นใจว่าเป็นผู้ค้าอุปกรณ์รายเดียวที่สามารถให้การป้องกันอัจฉริยะได้ทั่วเครือข่ายและตลอดวงจรการคุกคามทั้งหมดได้ จึงได้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์ป้องกันภัยใหม่ๆ ที่มีประสิทธิภาพสูงได้รับรางวัลและครบวงจรมากขึ้น ได้แก่ ฟอร์ติเกต เอสดี-แวน (FortiGate SD-WAN) ฟอร์ติพร็อกซี่ (FortiProxy) ฟอร์ติแนค (FortiNAC) ฟอร์ติไคลเอนท์ (FortiClient) จึงสามารถพิสูจน์ความคุ้มค่าการลงทุนได้จริง
จากผลการทดสอบ "2018 NSS Labs Group Test" พบว่า อุปกรณ์ FortiGate SD-WAN ของฟอร์ติเน็ตเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่ได้รับคะแนนแนะนำให้ใช้หรือ "Recommended" เรทติ้งในการทดสอบกลุ่มไฟร์วอลล์ประเภท SD-WAN (ย่อมาจาก Software-Defined Wide Area Networking คือการเชื่อมโยงเครือข่ายระยะไกลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์) และประเภท Next-Generation ซึ่งอุปกรณ์ ฟอร์ติเกต เอสดี-แวนที่ส่งเข้าทดสอบนั้นใช้เทคโนโลยีโปรเซสเซอร์รักษาความปลอดภัยที่ได้จดสิทธิบัตรของฟอร์ติเน็ต มีความสามารถดีเลิศในทุกๆ ด้านที่ประเมินโดย NSS Labs ทำให้การต้นทุนการเป็นเจ้าของต่ำที่สุด ส่งผลทำให้ลูกค้าผู้ใช้งานสามารถมีความได้เปรียบในการแข่งขันในโลกดิจิตอลได้อย่างมีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
โซลูชั่นฟอร์ติพร็อกซี่ (FortiProxy) ที่ทำหน้าที่เป็นเว็ปเกทเวย์ที่ปลอดภัย (Secure Web Gateway) มาพร้อมคุณสมบัติครบถ้วนนอกเหนือจากการทำงานด้านเก็บและกระจายข้อมูล (Caching) ได้อย่างชาญฉลาดและรวดเร็วแล้ว ยังกรองยูอาร์แอลได้ลึกมากขึ้น โดดเด่นกว่าหลายแบรนด์ที่สามารถสแกนภาพดูในไฟล์ได้ เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น ราคาที่เป็นเจ้าของได้
ฟอร์ติแนค (FortiNAC: Network Access Control) เป็นโซลูชั่นที่รองรับการใช้งานไอโอที (IoT) อุปกรณ์ที่เป็น Headless และการนำอุปกรณ์ส่วนตัวเข้ามาใช้งาน (BYOD) ในเครือข่าย สามารถตรวจสอบและบริหารอุปกรณ์ที่เชื่อมโยงเข้ามาใช้งานไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม รวมถึงบริหารอุปกรณ์การเชื่อมโยงเครือข่ายได้ หากพบภัยแอบแฝงเข้ามา จะสามารถโต้ตอบจัดการกับภัยได้อย่างอัตโนมัติ มีการทำงานแบบออโตเมชั่น จึงช่วยให้การปฏิบัติงานในเครือข่ายสม่ำเสมอ
อุปกรณ์ทั้งหมดจะทำงานอยู่บนผืนผ้าด้านความปลอดภัยซีเคียวริตี้แฟบริคของฟอร์ติเน็ต จึงสามารถให้ความปลอดภัยครอบคลุมและให้ศักยภาพในการเห็นภายในเครือข่ายและอุปกรณ์ถึงระดับแอปพลิเคชั่นตั้งแต่ต้นทางจนปลายทาง สามารถพิสูจน์ในความคุ้มค่าการลงทุนได้เป็นอย่างดี