กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--เอ พับลิซิสท์
เป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์อยู่เสมอ สำหรับ "เชียงราย" จังหวัดที่อยู่สูงที่สุดของประเทศไทย โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและสายหมอก ซึ่งไม่ว่าจะไปเช็คอินเมื่อไหร่ก็มีหลายคนแอบอิจฉาและถ้าใครยังไม่มีแผนในใจ เราขอแนะนำที่นี่เลย "ดอยตุง"โครงการพัฒนาดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ซึ่งมีสถานที่และประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ๆ มากมายรอให้ได้ไปสัมผัสแบบเที่ยววันเดียวคงไม่เต็มอิ่ม
เริ่มจากการกราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จย่า ณ "พระตำหนักดอยตุง" ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสันเขาของเทือกดอยนางนอน เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2531 ถือเป็นบ้านหลักแรกของสมเด็จย่า สร้างขึ้นโดยใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เน้นความเรียบง่ายเป็นพระตำหนักสองชั้นและชั้นลอย ชั้นบนแยกเป็นสี่ส่วนแต่เชื่อมต่อกันเป็นอาคารหลังเดียวมีกาแลและไม้แกะสลักเป็นเชิงชายลายเมฆไหลที่อ่อนช้อยโดยรอบ เป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างบ้านปีกไม้ ศิลปะล้านนา กับชาเลต์แบบ Swiss Chalet พอถึงกลางท้องพระโรงต้องแหงนมองดูเพดานที่แกะสลักเป็นกลุ่มดวงดาวในสุริยะจักรวาลเรียงตามองศาในวันที่ 21 ตุลาคม 2443 ซึ่งเป็นวันพระราชสมภพ และฝังดวงไฟให้กำลังแสงตามขนาดที่ได้สัดส่วนตามจริง โดยการคำนวณและออกแบบโดยสมาคมดาราศาสตร์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีห้องบรรทมและห้องทรงงานที่สื่อถึงความเรียบง่าย สมถะของพระองค์ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จย่า พระตำหนักยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีและเปิดให้ประชาชนเยี่ยมชมได้ทุกวัน
ถัดไปทางทิศเหนือของพระตำหนักดอยตุงจะพบ "สวนแม่ฟ้าหลวง" หรือ "สวนดอยตุง" เป็นสวนไม้ดอกไม้หลากสีสัน กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บนพื้นที่ 25 ไร่ ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ดูแลอย่างดี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด นอกจากแปลงไม้ประทับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่มจุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่าง ๆ ที่มีดอกสวยงามมาก บริเวณกลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัวของ มีเซียม ยิบอินซอย โดย สมเด็จย่าพระราชทานชื่อว่าความต่อเนื่องที่สื่อถึงการทำงานจะสำเร็จได้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มาถึงจุดนี้แวะเติมพลังกันสักนิดกับ"ดอยตุงคาเฟ่" นั่งพักชิลๆ จิบกาแฟหอมๆในสวน ก่อนไปต่อที่จุดเช็กอินใหม่กลางป่าใหญ่ ณ สวนแม่ฟ้าหลวง "Tree Top Walk" กิจกรรมสุดเสียว กับการเดินปืนป่ายไปบนสะพานแคบๆ ทางเดินโยกเยกชวนหวาดเสียวเล่นๆ สามารถเดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ป่าเขา ไร่กาแฟ ต้นไม้สายพันธุ์ต่างๆ และ ภูมิทัศน์ของดอยตุง ได้แบบพาโนรามาที่สูงจากพื้นดินประมาณ 40 เมตร ระยะทางเดินประมาณ 300-400 เมตร
จากนั้นแวะไปเยี่ยมชม "หอแห่งแรงบันดาลใจ" ซึ่งอยู่ติดกับสวนแม่ฟ้าหลวง ถ่ายทอดพระราชจริยวัตรสมเด็จย่า และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการทำงานและมุ่งมั่นพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยผ่านนิทรรศการ 7 ห้อง ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวของครอบครัวอันอบอุ่นของราชสกุลมหิดล เริ่มตั้งแต่สมเด็จย่าทรงเป็น"เด็กหญิงสังวาลย์" ที่ใฝ่ดีและแสวงหาโอกาส จนเป็น "คู่ชีวิตเจ้าฟ้า" ที่ได้ซึบซับพระราชปณิธานอันแรงกล้าในการทรงงานเพื่อแผ่นดินไทยและกลายเป็น "แม่ฟ้าหลวง" ของประชาชนชาวไทย ตลอดจนการสื่อพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ของ "พระมหากษัตริย์ของประชาชน" เพื่อแก้ปัญหาความทุกข์ยากของประชาชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ใครที่มาเยี่ยมหอแห่งนี้จะได้เห็นอุปกรณ์ธรรมดาๆ ที่ในหลวงใช้ทรงงานจนคุ้นตา ได้แก่ แผนที่ ดินสอ กล้องถ่ายรูปและวิทยุสื่อสาร สะท้อนให้เห็นถึงหลักการและวิธีการทรงงานที่เพื่อแก้ปัญหาของประชาชนชาวไทย ตลอดจนเข้าใจ ต้นกำเนิดของดอยตุงเมื่อครั้งเป็นป่าเขาที่แห้งแล้ง เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่น แต่เมื่อสมเด็จย่ามีพระชนมายุ 87 พรรษา ทรงมีพระราชดำริริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุงๆ เพื่อแก้ไขปัญหาของดินแดนที่เป็นส่วนหนึ่งของสามเหลี่ยมทองคำด้วยการ "ปลูกป่า ปลูกคน"ทำให้ทุกวันนี้ทั้งคนและผืนป่าของดอยตุง ได้รับการพลิกฟื้นคืนสู่ชีวิตที่พอเพียงมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เชื่อว่าเยาวชนคนรุ่นใหม่รวมถึงชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวดอยจะเข้าใจดอยตุงดินแดนที่มีแต่แรงบันดาลใจให้กับทุกๆคนมากยิ่งขึ้น
จากโครงการพัฒนาดอยตุงเราขับรถขึ้นไปอีกเล็กน้อยเพื่อเดินทางไปชมสวนดอกไม้หลากหลายชนิด สัมผัสอากาศเย็นสบาย รอชมพระอาทิตย์ตกที่ "สวนรุกขชาติดอยช้างมูบ" หรือ สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง ที่มีต้นไม้นานาพันธุ์โดยเฉพาะกุหลาบพันปีหลากสี หลายสายพันธุ์จากนานาประเทศ และจะยิ่งสวยงามมากในช่วงที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งในราวต้นเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ จนที่นี่กลายเป็นสวนป่าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
สีสันแห่งดอยตุงยังมีอีกหลายจุดรอให้นักท่องเที่ยวไปสัมผัส หลังจากชื่อชมดอยตุงเต็มอิ่มมาทั้งวัน ไม่ต้องไปไหนไกลเพราะดอยตุงมีที่พัก "ดอยตุงลอด์จ" ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการพัฒนาดอยตุงฯ บ้านพักบนยอดดอยตุง สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามา ให้ความเป็นส่วนตัวมีให้เลือกทั้งแบบ Deluxe Mountain View และ Deluxe Garden View และเต็มอิ่มกับเมนูพิเศษที่ "ครัวตำหนัก" รังสรรค์เมนูโดย ป้าเครือ ต้นเครืองของสมเด็จย่าที่คัดสรรวัตถุดิบดีๆ เน้นของในท้องถิ่นจากพื้นที่พัฒนาดอยตุงนำมาสร้างสรรค์เป็นเมนูอาหารที่สดอร่อย อาทิ ไก่ผัดเม็ดแมคคาเดเมีย แกงฮังเล ยำภูแล และเห็ดอ้อนดอย รับรองว่าไม่มีผิดหวัง
มาถึงจุดนี้ถ้ายังเที่ยวไม่จุใจเรายังมีอีกหนึ่งสถานที่ ที่ไม่ควรพลาดคือ พิพิธภัณฑ์ "หอฝิ่น" ในดินแดนสามเหลี่ยมทองคำจุดที่ไทย ลาว และพม่า มาบรรจบกันเป็นที่ที่แม่น้ำรวกไหลมารวมกันกับแม่น้ำโขง ในพื้นที่นี้เองมีการปลูกฝิ่น ผลิตเฮโรอีน และลักลอบนำออกไปขาย ภายในหอฝิ่นเป็นศูนย์นิทรรศการแบบ interative ผสมผสานกับแสง สี เสียงแสดงประวัติความเป็นมาของฝิ่นเมื่อสมัยที่มีการใช้กันอย่างถูกกฎหมาย ชมอุโมงค์ที่ ดูลึกลับมืดสนิทที่ผ่านทะลุภูเขาด้วยความยาว 137 เมตร สะท้อนให้เห็นด้านมืดของฝิ่นจนกลายเป็นยาเสพติดที่เป็นปัญหาไปทั่วโลก
จากนั้นเดินทางไปอำเภอเมืองเชียงราย อย่าลืมแวะชมสถาปัตยกรรม วัตถุโบราณล้านนา และสักการะพระพร้าโต้ ในหอคำ ชื่นชมบรรยากาศภายใน "อุทยานศิลปะวัฒนธรรมแม่ฟ้าหลวง" สถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมล้านนา และยังเป็นสถานที่จัดการศึกษาแก่เยาวชนชาวเขาเพื่อให้พวกเขาได้นำความรู้ที่ได้นั้นกลับไปพัฒนาชุมชนต่อไป ซึ่งแสดงภูมิปัญญาและสถาปัตยกรรมล้านนาที่งดงามบนพื้นที่ 150 ไร่ เป็นที่เก็บรักษางานพุทธศิลป์เก่าแก่ โบราณวัตถุอายุนับศตวรรษ ศิลปวัตถุรังสรรค์จากไม้สักและสระน้ำใหญ่ ร่มรื่นด้วยต้นไม้จากภาคต่างๆ ของประเทศ เช่น ต้นยูคาลิปตัสสายรุ้ง และกลางอุทยานยังมีที่ประดิษฐานพระรูปปั้นของสมเด็จย่าประทับบนโขดหินให้ผู้มาเยือนได้สักการะก่อนกลับกรุง
สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวปีนี้ ดอยตุงได้เตรียมโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับตั๋ว Early Bird ของ 7 สถานที่ท่องเที่ยวดอยตุง พร้อมคูปองเงินสด ส่วนลดอีกมากมาย ในเทศกาล 'สีสันแห่งดอยตุง' ช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม และยังมีโปรโมชั่นที่พักดอยตุงลอดจ์ในราคาเริ่มต้นเพียงห้องละ 2,900 บาท พร้อมอาหารเช้า พร้อมฟรีบัตรเข้าชม 4 สถานที่สุดพิเศษของดอยตุง สำหรับ 2 ท่าน สามารถซื้อได้ในงาน "ททท. ครั้งที่ 49" ระหว่างวันที่ 1-4 พฤศจิกายน 2561 นี้ ณ บูธ N14 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook: DoiTung Club