กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย แหล่งเงินทุนใหม่ของภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 31ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่ากองทุนรวม 45,700 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TFFIF"
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TFFIF" ในวันที่ 31 ตุลาคม 2561
TFFIF จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2559 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังถือหน่วยลงทุนทั้งหมด TFFIF เสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่มทุนต่อผู้จองซื้อทั่วไประหว่างวันที่ 12-19 ตุลาคม 2561 จำนวน 2,300 ล้านหน่วย และเสนอขายต่อผู้จองซื้อพิเศษ ผู้ลงทุนหลักโดยเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investor) และกระทรวงการคลัง ระหว่างวันที่ 22-25 ตุลาคม 2561 จำนวน 2,170 ล้านหน่วย รวม 4,470 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ 10 บาท รวมมูลค่าระดมทุน 44,700 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการกองทุน และมีบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน
TFFIF ลงทุนในสิทธิที่จะได้รับ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางหลังหักภาษีมูลค่าเพิ่มของทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์-วงแหวนรอบนอก) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) ระยะทางรวม 83.2 กิโลเมตร เป็นระยะเวลา 30 ปี นับจากวันโอนสิทธิตามสัญญาโอนและรับโอนสิทธิในรายได้ (RTA) โดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT) ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงคมนาคม ยังเป็นเจ้าของทรัพย์สินและเป็นผู้บริหารจัดการทางพิเศษดังกล่าว นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังเข้าถือหน่วยลงทุนในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 10% เป็นระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า TFFIF เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่มีคุณภาพของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อเพิ่มความสามารถแข่งขันของประเทศ TFFIF ถือเป็นทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน จากส่วนแบ่งรายได้ของทางพิเศษที่มีความมั่นคงและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงโอกาสในการเติบโตจากปริมาณการจราจรบนทางพิเศษ และการขยายระบบทางด่วนและทางเชื่อมต่อในอนาคตที่จะเข้ามาใช้ทางพิเศษ รวมถึงการเข้าลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติมในอนาคต นอกจากนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดายังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินปันผลเป็นระยะเวลาประมาณ 8 ปี TFFIF มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ตามที่ระบุไว้ในโครงการจัดการกองทุน อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เมื่อมีกำไรสะสมเพียงพอและไม่มียอดขาดทุนสะสม โดยเมื่อรวมแล้วในแต่ละงวดปีบัญชี ไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว โดยหลังเสนอขายหน่วยลงทุนส่วนเพิ่ม TFFIF มีผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ 3 รายแรก ได้แก่ กระทรวงการคลัง 10% AIA Company Limited–EQ3-P 3.76% และบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 3.76%
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของกองทุนรวมที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และที่เว็บไซต์ www.set.or.th