กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--เซ็นทรัลพัฒนา
- ชูโมเดล Theory-Training-Transform ปั้น SMEs ต่อเนื่องรวมสองรุ่น 80 แบรนด์ โดยกว่า 50% เติบโตและขยายสาขากับซีพีเอ็น บนพื้นที่รีเทลกว่า 8,000 ตร.ม.
- โชว์เคสตัวอย่างความสำเร็จ ได้แก่ 1) 'DIVANA' แบรนด์สปาหรูสามารถสร้าง Sustainable Business ด้วยไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ 2) 'ChouNan' ร้านอาหารจานด่วนสไตล์เอเชีย transform ธุรกิจในคอนเซ็ปต์ Urban Lifestyle และ 3) 'Yellow Spoon' เบเกอร์รี่ที่เริ่มต้นจากธุรกิจ Wholesale สามารถพัฒนา Brand Expansion ในหลายฟอร์แมต
- ประกาศต่อยอดวิสัยทัศน์ 'Center of Life' ด้วยแผนหนุน SMEs ท้องถิ่นเข้าสู่พื้นที่โมเดิร์นเทรดอย่างถาวร นำร่องที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น ปลายปี 2561 นี้
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชั้นนำของไทย เดินหน้าสนับสนุน SMEs ไทย แถลงความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมในการสนับสนุน SMEs รุ่นใหม่ผ่านโครงการ "CPNlead รุ่น 2" ที่ซีพีเอ็นจับมือกับ ม.ธรรมศาสตร์ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตรที่เน้นให้ผู้เรียนได้ "เรียนรู้จริง ลงมือจริง และสำเร็จจริง" เพื่อช่วยพัฒนาผู้ประกอบการไทยไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่หรือเล็กให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งปีนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 40 แบรนด์ โดยมีความหลากหลายทั้งด้านขนาดและประเภทของธุรกิจ อีกทั้งยังขยายไปสู่ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างความเจริญและพัฒนาท้องถิ่น กระจายรายได้สู่ชุมชนอีกด้วย ทั้งนี้หลักจากจบคอร์สหลายแบรนด์สามารถต่อยอดธุรกิจและพัฒนาคอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่ง 3 แบรนด์ที่มีโมเดลธุรกิจโดดเด่นที่สุด ได้แก่ 'DIVANA' แบรนด์สปาหรูสู่ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์, 'ChouNan' ร้านอาหารจานด่วนสไตล์เอเชียกับคอนเซ็ปต์ใหม่ Urban Lifestyle และ 'Yellow Spoon' เบเกอร์รี่ที่ไม่เหมือนใครกับการขยายสาขาในฟอร์แมตที่หลากหลาย
คุณปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารของซีพีเอ็น เผยว่า "ในยุคที่การทำธุรกิจมีความท้าทายมากขึ้น ผู้ประกอบการไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องรู้จักปรับตัว เพื่อสร้างธุรกิจให้เข้มแข็งและอยู่รอดเติบโตอย่างยั่งยืน ซีพีเอ็นเองมีวิสัยทัศน์ในการสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต (Center of Life) และมีแนวทางการสนับสนุน SMEs และ Start-up ไทยที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในทุกระดับมาอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินโครงการใน 2 รูปแบบหลัก ได้แก่ รูปแบบแรก คือ การแบ่งปันความรู้ความเชี่ยวชาญอย่างเจาะลึก ติดอาวุธ SMEs ในโครงการ "CPNlead" เพื่อให้ SMEs สามารถต่อยอดและขยายธุรกิจได้ด้วยตนเองต่อไปในวงการค้าปลีกไทย โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องขยายธุรกิจกับซีพีเอ็นเท่านั้น ซีพีเอ็นในฐานะที่เป็นพี่ใหญ่ในวงการค้าปลีก เราตั้งใจให้หลักสูตรนี้เป็นเสมือน spring board ให้ผู้ประกอบการเติบโตไปพร้อมกัน หลังจากเปิดหลักสูตรมาแล้ว 2 ปี ได้สนับสนุนและปั้นธุรกิจรวม 80 แบรนด์ ซึ่งหลายแบรนด์สามารถต่อยอดความสำเร็จได้ทันที รวมถึงมีความพร้อมที่จะสร้าง Co-Creation ร่วมกันกับซีพีเอ็นต่อไปในอนาคต"
คุณปรีชา กล่าวต่อไปว่า "นอกจากนี้ จากจุดแข็งที่เรามีทำเลศักยภาพในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ เราจึงสนับสนุน SMEs อีกรูปแบบหนึ่ง ด้วยการสร้างโอกาสในการขาย ผ่านกิจกรรม 'SMEs Market Place เพื่อเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นนำเอาทั้งสินค้า OTOP ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร และสินค้าประจำจังหวัด ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ราย มาจำหน่ายในศูนย์การค้าของเราทั่วประเทศ โดยปีนี้ซีพีเอ็นตั้งเป้ายกระดับไปอีกขั้นด้วยการสร้างสรรค์ Destination Concept แบบถาวร เพื่อเป็นพื้นที่และช่องทางจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการท้องถิ่น ในรูปแบบโมเดิร์นเทรดบนโซนนิ่งที่ชัดเจน โดยจะนำร่องที่เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น คัดเลือกทั้งสินค้าของดีประจำท้องถิ่น และเรายังได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ช่วยคัดเลือกผู้ประกอบการจากทั่วประเทศให้มาเข้าร่วมด้วย โดยพร้อมเปิดโซน SMEs ในเดือนธันวาคม 2561 และ ตั้งเป้าขยายไปทั่วประเทศ ภายในปี 2562 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมกว่า 1,000 ราย"
คุณปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการของซีพีเอ็น กล่าวว่า "เราเล็งเห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่มีไอเดียสร้างสรรค์ และมีความพร้อมที่จะสร้างธุรกิจให้เติบโต จึงคัดเลือกและเฟ้นหาแบรนด์ที่จะเป็นช้างเผือกให้กับวงการค้าปลีกไทย เพื่อมาฝึกอบรมและติดอาวุธธุรกิจ ในหลักสูตร CPNlead ภายใต้แนวคิด 'Growth and Success with Great Partnership' ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จถึง 3 ต่อแบบ Win-Win-Win คือ SMEs ผู้เรียนมีความเติบโต, ศูนย์การค้าก็มีความหลากหลายของสินค้าและบริการใหม่ๆ และสุดท้ายคือผู้บริโภคมีตัวเลือกในการซื้อหาของดีมีคุณภาพ และสินค้าไอเดียใหม่ๆ ไปด้วย ในวันนี้ความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมของ CPNlead คือ เราสามารถปั้นธุรกิจ SMEs ไทยรุ่นใหม่ให้ประสบความสำเร็จและมีพัฒนาการในหลายๆ ด้าน เช่น New Business Model ด้วยการนำเสนอธุรกิจที่มีไอเดียและ Innovation ใหม่ๆ, Product Development จากการค้นพบความต้องการของผู้บริโภคและการทำเวิร์คช้อปร่วมกับเพื่อนผู้ประกอบการ กระตุ้นให้ผู้เรียนคิดนอกกรอบและกล้าทดลองไอเดียใหม่ๆ, Brand Concept ด้วยการทำ Story Telling ให้มีจุดเด่นและน่าดึงดูดสำหรับผู้บริโภค และ Marketing Strategy โดยเฉพาะในยุค Hyper Connected Consumers แบรนด์ยุคนี้ต้องใช้ Digital Communication เป็นต้น โดยรวมหลักสูตรทั้งสองรุ่นกว่า 50% สามารถเติบโตและขยายสาขากับซีพีเอ็น รวมเป็นพื้นที่รีเทลกว่า 8,000 ตารางเมตร"
ผศ. ปิติพีร์ รวมเมฆ อาจารย์ประจำภาควิชาการตลาด คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม. ธรรมศาสตร์ ผู้อำนวยการหลักสูตร CPNlead กล่าวว่า "คอร์ส CPNlead มีจุดประสงค์หลักคือปั้น SMEs ไทยที่มีศักยภาพในการเติบโตผ่านเครื่องมือ Retail Success Formula ที่เรา develop ให้โครงการนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ SMEs วางแผนธุรกิจแบบเป็นระบบและมีความเป็นมืออาชีพ ผู้ประกอบการหลายคนมีไอเดียและ passion แต่การลุยทำธุรกิจและคิดคนเดียวอาจทำให้มองภาพได้ไม่ครบรอบด้าน ซึ่งคอร์ส CPNlead ช่วยเปิดมุมมองการทำธุรกิจให้กว้างขึ้น อีกทั้งเรายังผลักดันให้ผู้ประกอบการมองไปถึงความเติบโตของธุรกิจในระยะยาวด้วย สำหรับในปีที่ 2 เน้นเรื่องการ Co-Creation เราตั้งโจทย์ให้แต่ละแบรนด์ co-create โปรดักท์ใหม่ๆ ร่วมกัน เพื่อให้คิดนอกกรอบและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง บนพื้นฐานของการคำนึกถึง Customer Centric และการสร้างประสบการณ์แบบ Seamless นอกจากนี้ โมเดล Pop-Up Store ในรูปแบบครีเอทีฟมาร์เก็ต 'YOUNIQUE Market' ก็ช่วยให้ SMEs ประสบความสำเร็จอย่างมาก คือช่วยลดขั้นตอนการลองผิดลองถูกคนเดียว หลายคนสามารถสร้างโปรดักท์ใหม่และค้นพบพาร์ทเนอร์ธุรกิจจากหลักสูตรนี้นำไปต่อยอดได้จริง"
ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาดของซีพีเอ็น กล่าวเพิ่มเติมว่า "ซีพีเอ็นเป็นรายแรกในวงการค้าปลีกที่ริเริ่มพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้ประกอบการ SMEs ไทยอย่างเป็นรูปธรรม คอร์ส CPNlead แตกต่างด้วยโมเดล 'Theory-Training-Transform' โดยเข้มข้นทั้งความรู้ know-how และ case study ใหม่ๆ และที่สำคัญคือการได้ "ลงมือปฏิบัติจริง" นักธุรกิจในรุ่นนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ดีมาก เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมี Passion ในการทำธุรกิจ ทางซีพีเอ็นต้องการที่จะช่วยสานฝันให้ธุรกิจของคนรุ่นใหม่ได้ต่อยอด จึงได้ร่วมกับคณะกรรมการดูแลหลักสูตรคัดเลือกแบรนด์ที่มีพัฒนาการและสามารถคิดค้น Business Model ได้โดดเด่นที่สุดใน 3 อันดับ ได้แก่
1) ชนะเลิศอันดับ 1: คุณกานต์พิชชา เกียรติขจรฤทธิ์ จากแบรนด์ DIVANA ธุรกิจที่เติบโตจากความละเอียดอ่อนของสปา โดดเด่นในเรื่อง Passion และความ Creative สามารถเปลี่ยนแปลงคิดโมเดลใหม่เป็นไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์ในชื่อ 'DIVANA Signature Cafe' และสร้าง Sustainable Business ด้วยคอนเซ็ปต์การสร้างความเชื่อมโยงกับโลเคชั่นที่ไปตั้งอยู่ สู่การปั้น แบรนด์ 'DIVANA Landmark' เป็นการสร้างพื้นฐานความยั่งยืนให้ธุรกิจที่สามารถคิดนอกกรอบและไม่หยุดนิ่ง
2) ชนะเลิศอันดับ 2: คุณกุลวัชร ภูริชยวโรดม จากแบรนด์ Chounan ร้านอาหารจานด่วนสไตล์เอเชีย นำเสนอ Transformation Concept ผสมผสานไลฟ์สไตล์คนสมัยใหม่คือ 'Urban Lifestyle & New Japanese' สามารถเปลี่ยนกลยุทธ์จาก Product Centric เป็น Customer Centric การคิดซิกเนเจอร์ใหม่ๆ อย่าง "เกี๊ยวซ่าพระจันทร์" ตอบโจทย์ความเร็ว ความสบาย และเป็นเดสซิเนชั่นของอาหารจานด่วนได้ รวมถึงต่อยอดอย่างยั่งยืนให้กับชุมชนบ้านเกิดด้วยโปรเจ็ค ChouNan Farm และ Craft Center
3) ชนะเลิศอันดับ 3: คุณมินทร์ธิรา วิชญวงศ์ธีรกุล จากแบรนด์ Yellow Spoon แบรนด์เบเกอร์รี่ ที่ใส่ใจในรายละเอียดของขนมทุกชิ้น เรียบง่ายและได้คุณภาพ เริ่มต้นจากธุรกิจ Wholesale และเน้นการขายส่งผ่านช่องทางออนไลน์สามารถพัฒนาไปสู่ Brand Expansion จนขยายสาขาได้ พร้อมไอเดียที่สามารถต่อยอดเป็น Store Concept ในหลายรูปแบบ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ รวมถึงจุดแข็งด้าน Production ที่สามารถควบคุมคุณภาพได้แม้จะขยายธุรกิจเป็น รีเทลในสเกลที่ใหญ่ขึ้น"