กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ซีพีเอฟ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมอบรางวัล ให้กับ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ได้แก่ รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืนดีเด่น (SET Sustainability Awards 2018 ประเภท Outstanding Sustainability Awards) และหุ้นยั่งยืน (Thailand Sustainability Investment หรือ THSI) เป็นปีที่ 4 ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการบริหารงานภายใต้หลักธรรมภิบาล ตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีทางเศรษฐกิจและการเติบโตต่อเนื่อง
นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ กล่าว รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านความยั่งยืน เป็นหนึ่งในทิศทางการพัฒนาคุณภาพของตลาดหลักทรัพย์ฯ สำหรับบริษัทจดทะเบียนในการสร้างทั้งคุณค่าและมูลค่าต่อทั้งตัวองค์กรและสังคม และยังสามารถนำแนวทางความยั่งยืนไปประยุกต์ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและโปรงใส ภายใต้กรอบบรรษัทภิบาล
ซีพีเอฟ ในฐานะธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ที่ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ "ครัวของโลก" ด้วยความรับผิดชอบต่อ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเชื่อมโยงกับคู่ค้าธุรกิจและผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิต บนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตามหลักธรรมาภิบาล ทั้งกิจการในไทยและกิจการในต่างประเทศ รวมถึงการประกาศวิสัยทัศน์ระดับโลกด้านการใช้ยาต้านจุลชีพในสัตว์และนโยบายและเป้าหมายสวัสดิภาพสัตว์ระยะยาว ในการส่งเสริมสุขภาพสัตว์ให้แข็งแรง ลดการตกค้างของยาและลดการดื้อยาต้านจุลชีพ เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์คุณภาพดี เพิ่มความปลอดภัยในอาหารและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของคนไทยและผู้บริโภคทั่วโลก
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังดำเนินธุรกิจบนหลักความรับผิดชอบต่อสังคมสู่ความยั่งยืนภายใต้ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดินน้ำป่าคงอยู่ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานในฐานะสมาชิกของ UN Global Compact และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) ครอบคลุมถึงเรื่องการยกระดับคุณภาพและความปลอดภัยทางอาหาร ส่งเสริมการเข้าถึงอาหาร การจ้างแรงงานถูกต้องตามกฏหมายและเป็นธรรม โดยยึดหลักปฏิบัติบนพื้นฐานของการเคารพสิทธิมนุษยชน การจัดการสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น แนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความยั่งยืนและหลักปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับกิจการของบริษัทฯ ทั้งธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ และธุรกิจอาหาร โดยครอบคลุมพื้นที่การลงทุนทั่วโลก
"จุดมุ่งหมายของบริษัทคือการดำรงไว้ซึ่งการผลิตอาหารที่มั่นคงให้แก่พลโลก โดยตระหนักถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายให้เกิดความยั่งยืนในส่วนของสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของสังคม การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งผ่านสิ่งที่ดีไปยังโลกอนาคตต่อไป" นายสุขสันต์ กล่าวย้ำ
นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจและการผลิตอาหารสู่ความยั่งยืน โดยการค้นคว้าและสรรหานวัตกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนการคิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมสุขภาวะและโภชนาการที่ดีของผู้บริโภคทุกช่วงวัย ภายใต้กระบวนการผลิตและการรับรองตามมาตรฐานสากลที่ สด สะอาด ปลอดภัย มีคุณค่าทางโภชนาการ ตั้งแต่ต้นทางกระบวนการผลิต คือ อาหารสัตว์ การเลี้ยง เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพดีและหลากหลายมาใช้ในการผลิตอาหาร
นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังคงเดินหน้าพัฒนาอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารผู้ป่วยเพื่อให้สุขภาวะที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ และผลิตภัณฑ์ที่มีความหลายหลายให้กับผู้บริโภคแต่ละกลุ่มที่มีความต้องการแตกต่างกัน ในรูปแบบของอาหารพร้อมรับประทาน
"ที่ผ่านมา ไม่เพียงการพัฒนาอาหารเพื่อผู้ป่วย อาหารเพื่อผู้สูงวัย หรือ อาหารเพื่อสุขภาพและความงาม ล่าสุด ซีพีเอฟ ยังเปิดศูนย์วิจัย และพัฒนาอาหาร ที่ อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่เป็นห้องปฏิบัติการนำร่อง (Pilot Plant)ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการพัฒนาอาหารใหม่ๆ ให้มีความรวดเร็วมากขึ้น" นายสุขวัฒน์ กล่าว
นายสุขวัฒน์ กล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทฯ ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับโลกมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการผลิตอย่างยั่งยืนสามารถตรวจสอบได้ตลอดห่วงโซ่การผลิต โดยแนวทางดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแนวคิดการประเมินด้านความยั่งยืนในดัชนี DJSI ซึ่งเป็นการประเมินบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ด้านความยั่งยืนระดับโลก