กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--IR PLUS
ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์" หรือ STI เตรียมเดินหน้าเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 68 ล้านหุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ภายในปีนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้พัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีระบบงาน สร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำธุรกิจที่ปรึกษาบริหารงานก่อสร้างอย่างครบวงจร และรักษาการเติบโตระยะยาวรับการขยายตัวของภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์
นายสมเกียรติ ศิลวัฒนาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STI เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต. ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย STI จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนใช้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมทักษะความรู้พนักงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมทั้งลงทุนอุปกรณ์ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมด้านการออกแบบ ควบคุมงานก่อสร้าง และการเงิน-การบัญชี ตลอดจนลงทุนงานระบบและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ และเงินทุนในการเข้าลงทุนในกิจการอื่น โดยคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ภายในปีนี้
STI เปิดเผยว่า ธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ (1) ธุรกิจที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้างสำหรับโครงการก่อสร้างทุกประเภท เช่น โครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม เป็นต้น (2) ธุรกิจให้บริการออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม งานตกแต่งภายใน และงานอนุรักษ์โบราณสถาน
ผลงานของกลุ่ม STI ในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, อาคารยูบีซี 3, อาคารสำนักงาน Pearl Bangkok, ห้างสรรพสินค้า Terminal 21 (โคราช), พระราชวังสราญรมย์, พระบรมราชานุสรณ์ ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี, พิพิธภัณฑ์บ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี, วังกรมพระนเรศวรฤทธิ์ (วังมะลิวัลย์), สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินวังบูรพา เป็นต้น โดยผลประกอบการของกลุ่ม STI ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2558-2560 กลุ่ม STI มีรายได้จากการให้บริการรวมอยู่ที่ 461.77 ล้านบาท 472.80 ล้านบาท และ 494.56 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 54.61 ล้านบาท 55.92 ล้านบาท และ 57.51 ล้านบาท ตามลำดับ
สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม – มิถุนายน) กลุ่ม STI มีรายได้จากการให้บริการ 277.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.59 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 28.56 เทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 รวมจำนวน 215.63 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจบริหารและควบคุมงานก่อสร้างจำนวน 68.42 ล้านบาท จากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น เช่น โครงการ One Bangkok โครงการ The PARQ โครงการประเภทอาคารอเนกประสงค์ เป็นต้น
"จากภาพรวมการขยายตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 การลงทุนของภาครัฐบาลและเอกชน ซึ่งยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ด้วยความพร้อมของบุคลากร ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจของกลุ่ม STI มากว่า 30 ปี และผลงานให้บริการแก่โครงการภาคเอกชนและภาครัฐขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นโอกาสให้กลุ่ม STI ได้รับงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 กลุ่ม STI มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) จำนวน 716.52 ล้านบาท แบ่งเป็นงานที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงานก่อสร้าง จำนวน 659.68 ล้านบาท และงานออกแบบงานด้านสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม จำนวน 56.84 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือดังกล่าวตามความสำเร็จของงาน ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 - ปี 2564" นายสมเกียรติกล่าว
ด้านนางสาวจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกของ บมจ.สโตนเฮ้นจ์ อินเตอร์ หรือ STI เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 68,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละ 25.37 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะทำให้ STI มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว เท่ากับ 134,000,000 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 268,000,000 หุ้น