กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--เอฟเอคิว
ทรูมันนี่ หนึ่งในผู้นำบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย เผยความสำเร็จแคมเปญพิเศษส่งท้ายปี "Lucky Bag" เปิดปั๊บ รับเงินทุกถุง หลังจากเปิดตัวแคมเปญครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet ให้ความสนใจร่วมกิจกรรมเฉลี่ยวันละ 10,000 ราย และมอบเงินรางวัลรวมไปแล้วกว่า 6 ล้านบาท ล่าสุด ทรูมันนี่ได้เพิ่มมูลค่ารางวัลกว่า 2 เท่า เป็น 50 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคยุคดิจิทัลหันมาใช้จ่ายผ่าน e-Wallet มากยิ่งขึ้น และตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป มีร้านค้าพันธมิตรเพิ่มขึ้นอีก 8 แบรนด์ ได้แก่ Hello Yogurt, B2S, MoMo Paradise, NIKU-DON, 7-Eleven, Seacon Bangkae, KAMU และ Food World at Central World รวมทั้งหมดมากกว่า 15,000 สาขา เดินหน้านำเสนอเทรนด์ "Everyday payment เปย์แนวใหม่ จ่ายสบายได้ทุกวัน" ให้ผู้บริโภคชาวไทยเข้าถึงทุกการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านบริการที่หลากหลายของ TrueMoney Wallet
นายธีรวัฒน์ ติลกสกุลชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า "ผู้บริโภคต้องการความสะดวกสบายและปลอดภัยในการใช้จ่ายกับกิจกรรมประจำวันของตนเอง TrueMoney Wallet คือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์คู่ใจ นอกจากใช้จ่ายแล้วผู้ใช้ยังอยากได้รับความคุ้มค่า และแคมเปญ "Lucky Bag" เปิดปั๊บ รับเงินทุกถุง เป็นกิจกรรมการตลาดที่มอบความคุ้มค่าผ่านในรูปแบบรางวัลให้กับผู้ใช้ TrueMoney Wallet กับร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมกิจกรรม ซึ่งมีมากกว่า 60 แบรนด์ร้านค้า ครอบคลุมตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารฟาสต์ฟูด ร้านกาแฟ และร้านค้าชั้นนำมากมาย โดยเราได้เพิ่มมูลค่าเงินรางวัลรวม 50 ล้านบาทถึงสิ้นเดือนธันวาคม จนถึงวันนี้ผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet ได้รับเงินรางวัลไปแล้วมากกว่า 6 ล้านบาท"
แคมเปญ Lucky Bag ใช้ได้ทั่วประเทศกับร้านค้าพันธมิตรที่ร่วมกิจกรรม เพียงผู้ใช้งานชำระเงินด้วย TrueMoney Wallet ตั้งแต่ 30 บาทขึ้นไป ณ ร้านค้าที่ร่วมรายการ ก็สามารถรับสิทธิ์สแกน QR Code ของกิจกรรม Lucky Bag ที่ร้านค้าเพื่อลุ้นรับเงินสูงสุด 10,000 บาทได้ทันที รางวัลทั้งหมดรวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2561 ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปฯ TrueMoney Wallet ได้ทาง App Store และ Google Play Store ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.truemoney.com/luckybag-retail/ ยังมีของรางวัลอีกมากมาย รอคุณมาร่วมสนุก
ขั้นตอนที่ 1: วิธีเปิดรับสิทธิ์ Lucky Bag เพื่อรับเงินรางวัล
เลือกเมนู "จ่ายเงิน" ที่หน้าหลักของแอปฯ TrueMoney Wallet
สแกนบาร์โค้ดเพื่อชำระเงินที่ร้านค้า 30 บาทขึ้นไป ในร้านค้าที่ร่วมรายการ
ขั้นตอนที่ 2: วิธีเปิด Lucky Bag เพื่อรับเงิน
เลือกเมนู "สแกน" ที่หน้าหลักของแอปฯ แล้วสแกน QR Code ของ กิจกรรม Lucky Bag ที่ร้านค้าด้วยแอปฯ TrueMoney Wallet เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม
ที่หน้าหลัก แสดงลำดับล่าสุดของ Lucky Bag ที่ถูกเปิดโดยผู้เล่นคนอื่น
เมื่อ Lucky Bag อยู่ในลำดับที่คุณพอใจ ให้กด "เปิดรับเงินเลย" ถ้าไม่ยังพอใจ สามารถรอในการกดเปิดถุงได้ จนกว่าสิทธิ์จะหมดอายุ (สิทธิ์เปิด Lucky Bag ที่ได้รับจากร้านค้าจะหมดอายุภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากชำระเงินสำเร็จ)
เงินที่ได้รับจะแสดงพร้อมกับลำดับของ Lucky Bag ที่คุณเปิดตามเวลาจริง
ต่อที่ 2 สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับ Lucky Bag สามารถลุ้นโชคต่อที่ 2 กับรางวัลพิเศษอีกมากมายได้ง่ายๆ เพียงแคปภาพหน้าจอที่ได้รับเงินรางวัล พร้อมติด Hashtag #คนอวดถุง ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมได้ทุกสัปดาห์บน Facebook ของ TrueMoney ถึง 31 ธันวาคม ศกนี้
เกี่ยวกับ ทรูมันนี่
ทรูมันนี่คือบริษัทฟินเทคชั้นนำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มุ่งมั่นให้บริการทางการเงินแก่ทั้งผู้บริโภคยุคดิจิทัลและผู้บริโภคที่เข้าไม่ถึงบริการของสถาบันทางการเงิน โดยให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา เมียนมาร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ทรูมันนี่ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2546 และเข้าเป็นธุรกิจหนึ่งของบริษัทแอสเซนด์มันนี่ในปี พ.ศ. 2557 โดยทรูมันนี่มีผู้ถือหุ้นหลักสองราย คือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (หรือ ซีพี) กลุ่มธุรกิจด้านอาหาร การเกษตร ค้าปลีก และธุรกิจด้านโทรคมนาคมชั้นนำของโลก และอีกหนึ่ง คือ บริษัท แอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิเซส กรุ๊ป ผู้นำด้านเทคโนโลยีที่มุ่งมั่นพัฒนาและส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างความเท่าเทียมกันของทุกคน
ปัจจุบันทรูมันนี่มีบริการด้านการเงินที่หลากหลาย อาทิ TrueMoney Wallet แอปพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกในการใช้จ่ายง่ายขึ้นและตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด นอกจากนั้นยังมีเครือข่ายตัวแทน ทรูมันนี่ ที่คอยให้บริการทางด้านการเงินที่หลากหลาย อาทิ เติมเงิน ชำระสินค้า โอนเงินในและระหว่างประเทศ ครอบคลุมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบริการรับชำระเงินแบบออฟไลน์ ทั้งหมดนี้เพื่อมอบความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับหลายล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อก้าวล้ำไปสู่ชีวิตที่ดียิ่งขึ้น