กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 02 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,230.77-1,235.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,200 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,150 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,330 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,260 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01 น. ของวันที่ 02/11/61)
แนวโน้มวันที่ 05 พฤศจิกายน 2561
ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าจีน-สหรัฐที่บรรเทาลง หนุนสกุลเงินหยวนแข็งค่าขึ้นในการซื้อขายออฟชอร์ โดยกลับมาเคลื่อนไหวอยู่ที่โซน 6.9195 หยวนต่อดอลลาร์ ขณะที่ดัชนีดอลลาร์ร่วงลงจากจุดสูงสุดรอบ 16 เดือนที่ทำไว้เมื่อต้นสัปดาห์นี้ หลังกระทรวงต่างประเทศของจีนระบุว่า การหารือกันทางโทรศัพท์เมื่อระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวก สอดคล้องกับ สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า ปธน.ทรัมป์สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำคัญของสหรัฐเริ่มต้นร่างข้อตกลงทางการค้ากับจีน พร้อมเสริมว่าการผลักดันข้อตกลงที่มีความเป็นไปได้ดังกล่าวกับจีนเกิดขึ้นจากการสนทนาทางโทรศัพท์ของเขา กับ ปธน.สี นอกจากนี้ สภาทองคำโลก (WGC) ระบุว่า อุปสงค์สำหรับทองคำทั่วโลกปรับขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งจากธนาคารกลางต่างๆและผู้อุปโภครายย่อย โดย WGC ระบุในรายงานแนวโน้มอุปสงค์รายไตรมาสล่าสุดว่า อุปสงค์ทั้งหมดอยู่ที่ 964.3 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 958.1 ตันในเดือนก.ค.-ก.ย. ปี 2560 ปัจจัยดังกล่าวได้เพิ่มมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวประเภทอายุ 10 ปีของสหรัฐยังสามารถเคลื่อนไหวเหนือ 3% ซึ่งเป็นแรงหนุนสำหรับดอลลาร์ และหากสหรัฐมีการเปิดเผยตัวเลขในตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง อาจเห็นดอลลาร์ดีดกลับจากที่ร่วงลงก่อนหน้านี้ ซึ่งยังคงกดดันการขยับขึ้นของราคาทองคำ นอกจากนี้ ราคาทองคำในประเทศได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทต่อดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น และ เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มระยะสั้นแข็งค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค เบื้องต้นแนะนำให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,224-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังคงแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,224-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัว และพยายามทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ตการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนเมื่อราคาตั้งฐานได้อีกครั้ง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,224 (19,000บาท) 1,211 (18,750บาท) 1,197 (18,550บาท)
แนวต้าน 1,243 (19,300บาท) 1,254 (19,450บาท) 1,266 (19,650บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,224 (19,160บาท) 1,211 (18,960บาท) 1,197 (18,740บาท)
แนวต้าน 1,243 (19,460บาท) 1,254 (19,630บาท) 1,266 (19,820บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999