กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--โพลีพลัส พีอาร์
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หันมาดูแลสุขภาพกันมากขึ้น แต่สำหรับผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไป คงหลีกหนีไม่พ้นกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นตามวัย โดยเฉพาะประสิทธิภาพการทำงานของสมองที่อาจมีการเสื่อมถอยตามธรรมชาติ ดังนั้นการรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการจึงจำเป็นต่อการรักษาสุขภาพสมองเมื่ออายุมากขึ้นได้
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการด้านโภชนาการชื่อดังของเมืองไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับการรับประทานอาหารให้ถูกหลักโภชนาการของคนวัย 50 ปีขึ้นไป ว่า "โภชนาการที่ถูกต้องมีความสำคัญ เพราะร่างกายต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อบำรุงร่างกายและสมอง ดังนั้นจึงควรรับประทานอาหารให้ครบหลัก 5 หมู่ ประกอบด้วย โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, แร่ธาตุ-เกลือแร่, วิตามิน และไขมัน ในสัดส่วนที่ถูกต้องตามวัย โดยเมื่ออายุก้าวสู่วัย 50 ปี ร่างกายจะเผาผลาญน้อยลง ดังนั้นควรลดการทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ใหญ่ อาทิ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว เนื่องจาก ย่อยยากและมีไขมันสูง แต่ควรเปลี่ยนมาทานเนื้อปลาหรือโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว เต้าหู้ โปรตีนเกษตรแทน ลดการทานคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งรวมถึงอาหารทอด เนื่องจากร่างกายจะเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลและเปลี่ยนน้ำตาลเป็นไขมัน ซึ่งหากบริโภค แป้ง, น้ำตาล และไขมัน ในปริมาณมากเกินความต้องการก็จะทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดและรวมถึงโรคหลอดเลือดสมองตีบและอุดตัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง"
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ได้แนะนำเพิ่มเติมว่า การดูแลสุขภาพสมองนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับวัย ซึ่งคนในวัย 50 ปีขึ้นไป ควรรับประทานอาหารกลุ่ม พฤกษเคมี หรือ ผักหลากสี คือ ผักสีเขียว อุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีน ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี ผักสีแดง มีสารไลโคพีนและเค็บไซซิน ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่างๆ ในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ผิวหนัง ผักสีขาว-น้ำตาล มีสารอัลลิซิน ช่วยลดไขมัน ลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งและเนื้องอก เป็นต้น ส่วนผลไม้ควรเลือกผลไม้ที่มีรสหวานน้อย เช่น ฝรั่ง, แอปเปิ้ล, ลูกหม่อน, ชมพู่, มะเฟือง เป็นต้น สำหรับอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน ควรรับประทานอาหารที่มี สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสารฟลาโวนอยด์สามารถป้องกันไม่ให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายเสื่อม มีฤทธิ์ต่อต้านการจับตัวกันเป็นก้อนของเกล็ดเลือด ลดภาวะอุดตันของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง พบมากในพริกหยวกสีแดง, กะหล่ำปลี, สตรอเบอร์รี่, มะละกอ และใบแปะก๊วย สารไตรเทอร์ปีน แลคโตน (Triterpene Lactone) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิตได้รวดเร็วขึ้น พบมากในพืชสมุนไพรและใบแปะก๊วย เป็นต้น
ด้าน นายเฉลิมชัย ธีระกุล ผู้จัดการทั่วไป - ประเทศไทย บริษัท เอบี ฟู้ดแอนด์เบฟเวอร์เรจส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ โอวัลติน กล่าวว่า "แบรนด์โอวัลตินมีเป้าหมาย เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนในครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรง สำหรับผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไปนั้น นอกจากสุขภาพร่างกายที่ต้องดูแลแล้ว สุขภาพสมองก็สำคัญไม่แพ้กัน หากร่างกายและสมองทำงานได้ดี ก็จะสามารถใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการอย่างมีความสุข เราจึงมีความยินดีที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ "โอวัลติน โกลด์" (Ovaltine GOLD) เครื่องดื่มมอลต์สกัดรสช็อกโกแลต ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่วัย 50 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะ น้ำตาลน้อยกว่า แคลเซียมสูง ไขมันต่ำ และผสม สารสกัดจากใบแปะก๊วย (Ginkgo biloba extract) ซึ่งเป็นหนึ่งในสมุนไพรจีนที่ชาวจีนเชื่อกันว่า เป็นยาอายุวัฒนะ มีสรรพคุณในการรักษาโรคหลากหลายชนิด โดยเฉพาะสรรพคุณด้านช่วยบำรุงสมอง เพราะนอกจากใบแปะก๊วยมีสารฟลาโวนอยด์และสารไตรเทอร์ปีน แลคโตน แล้วยังมีสาร จิงโกไลด์ (Ginkgolides) และ บิโลบาไลด์ (Bilobalide) ซึ่งช่วยเรื่องการหมุนเวียนโลหิตที่สมอง ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น จึงช่วยเรื่องความจำได้ดี"
ลิ้มลองความอร่อยพร้อมบำรุงสมองช่วยเรื่องความจำ กับ "โอวัลติน โกลด์" (Ovaltine GOLD) ผสมสารสกัดจากใบแปะก๊วย ได้ที่ร้านค้าทั่วไปและซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำทั่วประเทศ สามารถติดตามสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ovaltine.co.th/ovaltinegold