ซีอีโออินเทลประกาศอนาคตอินเทอร์เน็ตที่คุณพกพาได้สะดวก

ข่าวเทคโนโลยี Tuesday January 8, 2008 17:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--คาร์ล บายร์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์
มร.พอล โอเทลลินี ประธานและซีอีโอของอินเทล ออกมาประกาศว่าอินเทอร์เน็ตจะยังคงสร้างการเปลี่ยนแปลงภายใต้แนวทางใหม่ๆ ต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภคและอุตสาหกรรมบันเทิงต่อไป นอกจากนั้นเขายังอธิบายอีกว่าวิวัฒนาการของอินเทอร์เน็ตจะสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ที่ "ยอมรับแนวโน้มดังกล่าว" ได้อย่างไรด้วย
โอเทลลินี กล่าวในงาน อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ (International Consumer Electronics Show - CES) ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า "ขณะนี้เรากำลังอยู่ท่ามกลางโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงแนวทางของวงการเครื่องใช้ไฟฟ้าและวงการบันเทิงอีกครั้งนับตั้งแต่มีการเปิดตัวโทรทัศน์เป็นต้นมา ระบบประมวลผลและระบบสื่อสารกำลังหลอมรวมกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตได้รับคุณสมบัติใหม่ๆ และมีรูปแบบการใช้งานที่ชาญฉลาดมากขึ้นกว่าเดิม ในอนาคตคุณจะมีโลกอินเทอร์เน็ตเป็นของตนเอง โลกซึ่งมีข้อมูลที่คุณต้องการ ไม่ว่าเมื่อใดหรือที่ไหนก็ตาม คุณจะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ในรูปแบบที่คุณต้องการ"
โอเทลลินี กล่าวเสริมว่า ในขณะที่โทรศัพท์ โทรทัศน์ และอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ต่างก็สามารถเชื่อมต่อเข้าหาอินเทอร์เน็ต และมีรูปแบบของการประมวลผลเพิ่มมากขึ้น ไมโครโปรเซสเซอร์และจุดเด่นต่างๆ ในกฎของมัวร์ ก็เริ่มมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
โอเทลลินี กล่าวเปรียบเทียบพีซีในยุคแรกและอินเตอร์เน็ตในอนาคตว่า "เมื่อการประมวลผลบนคอมพิวเตอร์มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น อุตสาหกรรมก็มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย นวัตกรรม ความร่วมมือ และมาตรฐาน ผลักดันให้เกิดการเติบโตเกินกว่าจินตนาการ ผมเชื่อว่าทิศทางของอินเทอร์เน็ตก็จะเป็นไปในลักษณะนี้"
อนาคตของการประมวลผลบนอินเทอร์เน็ต
โอเทลลินี พูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า สมมติว่ามีคนอเมริกันคนหนึ่งเดินทางไปปักกิ่ง ชายผู้นี้สามารถใช้อุปกรณ์โมไบล์อินเทอร์เน็ตที่พกติดกระเป๋าได้เพื่อแปลป้ายตามอาคาร รายการอาหารในภัตตาคาร และการสนทนาต่างๆ ออกมาเป็นคำพูดหรือตัวอักษรบนหน้าจอได้ในทันที นอกจากนั้นยังอาจมีแอพพลิเคชั่นบางชนิดที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวผู้นี้ไม่ต้องหลงทางอีกต่อไปโดยการดูภาพจุดสำคัญที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทีละขั้นตอนได้
ผู้ที่ร่วมบรรยายบนเวทีกับโอเทลลินี คือ สตีฟ ฮาร์เวล นักร้องนำของวง Smash Mouth* นั่นเอง คนทั้งสองได้ทำการสาธิตให้ดูว่าอินเทอร์เน็ตจะช่วยให้การติดต่อทางสังคมมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่างๆ ให้ดีขึ้นได้อย่างไรด้วย สิ่งที่พวกเขานำมาสาธิตก็คือเว็บไซต์เครือข่ายทางสังคมที่เหล่านักดนตรีสามารถมาเล่นดนตรีร่วมกันเพื่อทดสอบเพลงใหม่ๆ หรือจัดคอนเสิร์ตแบบเวอร์ช่วลก็ได้แม้ว่านักดนตรีจะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม นอกจากนั้นพวกเขายังแสดงให้เห็นว่าโลกเวอร์ช่วล 3 มิติในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไรโดยการใช้ร่างจำลองของแต่ละคนที่มีความสมจริงเหมือนภาพถ่าย และสามารถควบคุมร่างจำลองนี้ได้ในทันทีโดยใช้เม้าส์หรือคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ได้
โอเทลลินี บอกว่ามีอุปสรรค 4 ประการที่จำเป็นต้องเอาชนะให้ได้ก่อนที่ระบบงานเหล่านี้จะนำไปใช้ในอุปกรณ์ทั่วไปได้ในช่วง 3 ถึง 5 ปีข้างหน้าอย่างแท้จริง นั่นก็คือเรื่องแรกไมโครโปรเซสเซอร์ที่จำเป็นต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้พลังงานลดลงเพื่อใช้เป็นสมองของอุปกรณ์เอนกประสงค์ขนาดเล็กเหล่านี้ เรื่องที่สองคือโครงสร้างพื้นฐานของระบบสื่อสาร บรอดแบนด์ไร้สายที่จำเป็นต้องมีการติดตั้งสำหรับใช้งานอย่างกว้างขวาง เพื่อทำให้ระบบสื่อสารอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมีใช้งานทุกหนทุกแห่ง เรื่องที่สามได้แก่ อินเทอร์เน็ตจำเป็นต้องชาญฉลาดมากขึ้นและทำงานในเชิงรุกมากขึ้น เพื่อทำให้การค้นหาข้อมูลในอนาคตไม่ใช่การลองผิดลองถูกอีกต่อไป เรื่องสุดท้ายคือความจำเป็นในการพัฒนาหน้าจอให้สามารถรับคำสั่งจากผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพื่อทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เสียงหรือท่าทางเพื่อเข้าอินเทอร์เน็ตได้
อินเทลกำลังพัฒนาไมโครโปรเซสเซอร์ ระบบสื่อสารไร้สาย และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ อาทิ ระบบแสดงผลและระบบประมวลผลที่มาจากท่าทางของผู้ใช้เพื่อที่จะเอาชนะอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ให้ได้
โอเทลลินีกล่าวว่า "โอกาสที่รออยู่ก็คือการสร้างผลิตภัณฑ์ บริการ และโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆเหล่านี้ขึ้นมา แต่ก่อนอื่นสิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ที่ผมเพิ่งพูดถึงไปแล้วให้ได้เสียก่อน" โดยเขาเรียกร้องให้เหล่ายอดฝีมือในอุตสาหกรรมอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ การประมวลผล และการสื่อสารมาช่วยกันเพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดขึ้นได้
ไมโครโปรเซสเซอร์มีความสำคัญยิ่งกว่าเดิม
กฎของมัวร์ ระบุว่าจำนวนของทรานซิสเตอร์ที่อยู่ในชิปจะเพิ่มขึ้นสองเท่าทุกๆ 18 ถึง 24 เดือน นอกจากนั้น โอเทลลินี ยังเสริมอีกว่า จุดเด่นของการเพิ่มทรานซิสเตอร์ลงไปก็คือเราจะสามารถใส่ฟังก์ชั่นมากขึ้นให้อยู่ในชิปเพียงอันเดียวได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือโอกาสทางธุรกิจสำหรับบริษัทที่จำหน่ายอุปกรณ์คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ แถมยังก่อให้เกิดคุณประโยชน์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นกว่าเดิมสำหรับผู้บริโภคด้วย
โอเทลลินี พิสูจน์ประเด็นของตนเองโดยการนำเอาผลิตภัณฑ์ที่ใช้สถาปัตกรรมของอินเทลในรูปแบบ system-on-chip มาสาธิตเป็นครั้งแรก โดยที่ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวปรับแต่งมาเพื่อใช้กับอุปกรณ์แปลงสัญญาณ (set-top box) เครื่องเล่นมีเดีย และทีวีรุ่นต่อไปโดยเฉพาะ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยให้นำระบบงานและบริการต่างๆ ของอินเทอร์เน็ตไปใส่ไว้ในทีวีได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นอกจากการชมทีวีได้ตามปกติแล้ว ผู้ใช้ยังสามารถทำงานอินเทอร์แอคทีฟกับสื่อข้อมูลต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย เขาบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวซึ่งมีชื่อรหัสว่า Canmore จะเป็นทั้ง "ระบบ CE และระบบอินเทอร์เน็ตที่รวมอยู่ด้วยกัน"
โอเทลลินีประกาศว่า Canmore จะเริ่มจำหน่ายได้ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยจะเป็นการรวมคอร์โปรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพในระดับพีซี เข้ากับการประมวลผลระบบ A/V พิเศษที่สามารถแสดงผลวิดีโอความละเอียด 1080p บวกกับระบบเสียงรอบทิศทางแบบ 7.1 มาใส่ลงไป รวมทั้งยังมีระบบแสดงผลภาพกราฟิกสามมิติ เพื่อใช้แสดงผลอินเทอร์เฟซชั้นยอด และเล่นเกมออนไลน์ต่างๆ รวมทั้งเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานของสัญญาณการออกอากาศทีวีปกติได้อีกด้วย
โอเทลลินีกล่าวว่า "การนำเอาฟังก์ชั่นสำคัญหลายๆ ชนิดมารวมอยู่ด้วยกันในชิปเพียงอันเดียว อาทิเช่น ระบบประมวลผลข้อมูล กราฟิก เสียงและวิดีโอ จะช่วยให้อุปกรณ์ทำงานต่างๆ ได้มากขึ้นและใช้พื้นที่กับพลังงานลดลง"
โลกอัลตร้าโมไบล์จิ๋วแต่แจ๋ว
โอเทลลินีกล่าวว่าเรากำลังก้าวสู่โลก "อัลตร้าโมไบล์" ที่อุปกรณ์โมไบล์ที่ใช้ติดต่อสื่อสารมีขนาดเล็กลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น "อุปกรณ์ขนาดเล็กซึ่งสามารถใส่ไว้ใกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าสตางค์ของคุณจะใช้พลังงานน้อยที่สุด แต่ยังคงให้ประสบการณ์ในการท่องเว็บที่เต็มเปี่ยมเหมือนเดิม"
เขาคาดการณ์ว่าอุปกรณ์โมไบล์อินเทอร์เน็ตจะกลายเป็น "สุดยอดแห่งความยิ่งใหญ่เรื่องต่อไปในโลกของการประมวลผล" จากนั้นเขาได้ทำการแสดงวิธีการใช้งานอุปกรณ์ประเภทใหม่นี้ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารได้
สามารถแสวงหาความบันเทิงได้ และสามารถสื่อสารกับอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่ในขณะเดินทางได้ เขาได้นำเอาซอฟต์แวร์ Adobe* AIR มาแสดงเพื่อพิสูจน์ โดยการแสดงให้เห็นว่าผู้คนจะใช้เครือข่ายทางสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา บวกกับข้อมูลที่ผู้ใช้สร้างขึ้นมาภายในอุปกรณ์ที่พกพาติดกระเป๋าได้อย่างไร
อันเป็นผลมาจากรูปแบบการใช้งานที่คล่องตัวของ Adobe AIR นั่นเอง
อินเทลมีแผนที่จะเริ่มจำหน่ายโปรเซสเซอร์ใช้พลังงานต่ำและชิปเซ็ตแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์โมไบล์อินเทอร์เน็ตภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นแพลตฟอร์มที่มีชื่อรหัสว่า Menlow ซึ่งประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ชื่อรหัส Silverthorne และชิปเซ็ต ชื่อที่ใช้วิธีการออกแบบให้อยู่ในชิปเพียงชิ้นเดียวที่ใช้ชื่อรหัสว่า Poulsbo รวมกันอยู่ในแพ็กเกจที่มีขนาดเล็กลง 5 เท่า และใช้พลังงานน้อยลง 10 เท่า เมื่อเทียบกับโมไบล์โปรเซสเซอร์ที่จำหน่ายในปี 2549
นอกจากนั้นโอเทลลินี ยังได้พูดถึงจุดเด่นต่างๆ ของไวแมกซ์ เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีบรอดแบนด์ไร้สายชนิดอื่นๆ สำหรับรองรับการทำงานของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอีกด้วย เขาบอกว่าในขณะที่เทคโนโลยีไร้สายชนิดอื่นๆ กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ไวแมกซ์พร้อมที่จะนำไปใช้งานได้แล้วในวันนี้ เขาคาดการณ์ว่าภายในปลายปีนี้จะมีผู้ใช้กว่า 150 ล้านคนติดต่อสื่อสารผ่านไวแมกซ์
ผู้สนใจสามารถชมการบรรยายของโอเทลลินีซ้ำได้ทางเว็บคาสต์ที่ http://intel_ces.edgesuite.net/2008/home.html ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งนำมาสาธิตพร้อมกับการบรรยายในครั้งนี้และข่าวอื่นๆ ของอินเทลในงาน CES เข้าไปดูได้ที่ www.intel.com/pressroom/CES
ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมซิลิกอน อินเทลได้พัฒนาเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และริเริ่มสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างความก้าวหน้าในการทำงานและการดำรงชีวิตของผู้คน ผู้สนใจสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทอินเทล ได้ที่เว็บไซต์ http://www.intel.com/pressroom และ blogs.intel.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ