กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--เวเบอร์ แชนวิค
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดให้บริการมิกซ์ยูสแฟล็กชิป สิงห์ คอมเพล็กซ์ ในเฟสแรกส่วนออฟฟิศ-ค้าปลีก บนทำเลแห่งศักยภาพหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี ชูจุดแข็งสมาร์ทออฟฟิศแห่งใหม่บนทำเลศูนย์กลางธุรกิจ เดินทางสะดวก คับคั่งด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังกว่า 30 ร้าน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบของคนเมือง เชื่อจะเป็นหนึ่งธุรกิจหลักที่ผลักดันให้สิงห์ เอสเตท บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทในปี 2020
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทชั้นนำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เปิดให้บริการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ โครงการมิกซ์ ยูส แฟล็กชิปแห่งแรกของทางบริษัทฯ โดยโครงการตั้งอยู่บริเวณหัวมุมถนนอโศก – เพชรบุรีที่เดินทางสะดวก ติดกับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเพชรบุรี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ท่าเรืออโศกคลองแสนแสบ และทางด่วน ซึ่งถือเป็นทำเลศักยภาพแห่งอนาคตในย่านธุรกิจที่สำคัญ และโครงการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น โดยโครงการพัฒนาขึ้นบนพื้นที่ดินทั้งหมด 11 ไร่ ประกอบด้วย อาคารสำนักงานเกรดเอ 42 ชั้น พื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ มีขนาดพื้นที่รวม 120,000 ตารางเมตร และคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี มีความสูง 39 ชั้น จำนวน 319 ยูนิต โดยโครงการได้ก่อสร้างตามมาตรฐานอาคาร LEED Gold ด้านประหยัดพลังงาน
ซึ่งโครงการเปิดให้บริการเฟสแรกเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ประกอบด้วย สำนักงานเกรดเอ ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ (The Office at SINGHA COMPLEX) และพื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ทั้งนี้อาคารสำนักงาน ดิ ออฟฟิศ แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ได้เตรียมความพร้อมในการเป็นสมาร์ทออฟฟิศอย่างสมบูรณ์แบบโดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาใช้ภายในอาคารควบคุมผ่านแอปพลิเคชั่นที่จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เช่าพื้นที่ในอาคารสำนักงานและผู้ใช้บริการพื้นที่ค้าปลีก ด้านจำนวนผู้เช่า ขณะนี้มีทำสัญญาเช่าไปแล้วกว่า 80% และตั้งเป้าว่าจะมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ 100% ภายในสิ้นปี 2561 โดยขณะนี้เริ่มมีบริษัทฯ ทยอยย้ายเข้ามาในอาคาร และจะมีพนักงานออฟฟิศเข้ามาทำงานในอาคารภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน รวมกว่า 3,000 คน
นายนิธิพัฒน์ ทองพันธุ์ กรรมการบริหาร หัวหน้าแผนกพื้นที่สำนักงาน บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า " จากสถาปัตยกรรมของสิงห์ คอมเพล็กซ์และการเป็นออฟฟิศเกรดเอที่มีคุณภาพสูงพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและตรงต่อความต้องการของผู้เช่าชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ จึงทำให้สามารถทำสัญญาค่าเช่าล่วงหน้าก่อนโครงการเสร็จได้มากกว่า80% และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยดีที่สุดในย่านเดียวกัน"
สำหรับอาคารค้าปลีกสูง 4 ชั้น ที่เตรียมเป็นพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์ของทั้งพนักงานออฟฟิศและผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียม THE ESSE at SINGHA COMPLEX รวมถึงเป็นแหล่งกินช้อปแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ทั้งไทยและต่างชาติในย่านอโศก-เพชรบุรี ประกอบไป ด้วยร้านค้าและร้านอาหารชื่อดังมากมาย อาทิ Gontran Cherrier, Bake Cheese Tart, Coffee arigato, Dressed, Bake Cafe by Farm Design, THE COFFEE CLUB, On-Yasai, Hoshi, Hokkaido Butadon Tokachi, Phuket Town, EST.33, ซาลาเปาโกอ้วน, Gyu Kaku, Kazanและบริการ Wellness อื่น ๆ อาทิ Cut & Curl, ศูนย์ทันตกรรม ALL ABOUT TEETH, BLOSSOM CLINIC, EYE CLASS, Digital Bankingได้แก่ SCB Express, BAY และร้าน Tops Daily ซึ่งเป็นคอนเซปต์สโตร์ท็อปส์ดิจิตอลแห่งแรกของเมืองไทย รวมถึงร้าน 1887 ศูนย์กลางประชาสัมพันธ์เมืองท่องเที่ยวในญี่ปุ่น ที่นำเสนอสินค้าพื้นเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวจากเมืองต่างๆ ของญี่ปุ่น โดยมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าใหม่ๆ ทุกเดือน นอกจากนี้ยังมี foodPLACE ศูนย์อาหารซึ่งเปิดให้บริการอยู่บนชั้น 3 ของพื้นที่ค้าปลีก ซึ่งเป็นโซนอาหารที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังในตำนานทั่วกรุงเทพมหานครมาเปิดให้บริการ อาทิ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัฒนาพานิช, ข้าวแกงเจ๊จู, ไก่ย่างจีระพันธ์, มงคลชัย ข้าวมันไก่ หลา ลูกชิ้นปลาเยาวราช, ราดหน้าครัวอัปสร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมี Co-working space และพื้นที่รีแลกซ์ที่ลูกค้าสามารถนั่งทำงานและพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย โดยจะมีบริการ Free Super WIFI ความเร็ว 1GB/Sec. ซึ่งจะเป็น WIFI ฟรีที่เร็วที่สุดในกรุงเทพฯ ครอบคลุมทั้งอาคาร รวมถึงในบริเวณดาดฟ้าชั้น 4 ยังจัดให้เป็นสวนหย่อมสีเขียวกลางใจเมือง พื้นที่พบปะพูดคุยกันแบบคอมมูนิตี้ของทุกๆ คน ซึ่งโดยรวมทั้งหมดของพื้นที่ค้าปลีกขณะนี้เปิดให้บริการแล้วกว่า 70% และจะมีการเปิดร้านทั้งหมดอย่างเต็มรูปแบบภายในต้นปีหน้า
"จากการตอบรับที่ดีทั้งจากผู้เช่าและลูกค้าที่เข้ามาในสิงห์ คอมเพล็กซ์ นับเป็นการตอกย้ำศักยภาพของสิงห์ คอมเพล็กซ์ในการเป็นธุรกิจที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของบริษัทสิงห์ เอสเตทที่มุ่งพัฒนาโครงการคุณภาพเพื่อสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจ รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน เป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างการเติบโตให้แก่บริษัทฯ และขยายโอกาสในการลงทุนหลากหลายรูปแบบทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ สิงห์ คอมเพล็กซ์ จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่สำคัญในการผลักดันให้สิงห์ เอสเตท บรรลุเป้าหมายในการสร้างรายได้รวม 2 หมื่นล้านบาทในปี 2020 พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการรองรับดีมานด์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้" นายนริศกล่าวปิดท้าย