กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11
สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช เตือนประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ระวังการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออก หลังพบผู้ป่วยแล้วจำนวน 6,702 ราย เสียชีวิต 10 ราย แนะสังเกตอาการ มีไข้สูง 2 วัน มีจุดเลือดออกตามตัว หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียน และปวดท้อง ให้รีบพบแพทย์ทันที ห้ามซื้อยามารับประทานเอง เพราะอาจจะทำให้เกิดภาวะเลือดออกเฉพาะที่และเสียชีวิตได้
พญ.ศิริลักษณ์ ไทยเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 11 จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่าในช่วงนี้พื้นที่ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่อง และตกหนักในบางแห่ง ส่งผลให้บางพื้นที่มีแหล่งน้ำขัง นำมาซึ่งแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย เป็นสาเหตุของการเกิดโรคไข้เลือดออก จากสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 29 ตุลาคม 2561 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกจำนวนทั้งสิ้น 6,702 รายเสียชีวิต 10 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ กลุ่มอายุ 10-14 ปี รองลงมาคือ 5-9 ปี จังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดคือ นครศรีธรรมราช รองลงมาคือ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี และชุมพร
พญ.ศิริลักษณ์ กล่าวเพิ่ม โรคไข้เลือดออก เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อเดงกี่ ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค หลังจากถูกยุงมีเชื้อกัด ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการไข้สูงลอย 2–7 วัน เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน หน้าแดง ปวดศีรษะ บางรายมีจุดเลือดสีแดงขึ้นตามลำตัว แขน ขา อาจมีเลือดกำเดา เลือดออกตามไรฟัน และอาจทำให้เกิดอาการช็อกได้ ในรายที่ช็อกผู้ป่วยมักมีอาการหลังจากไข้ลง โดยผู้ป่วยจะเริ่มซึมลง ตัวเย็น ชีพจรเบาเร็ว หมดสติ หากรักษาไม่ทันทำเสียชีวิตได้ ดังนั้นต้องช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายบริเวณรอบๆบ้าน และในบ้านด้วยตัวท่านเอง โดยใช้มาตรการ"3 เก็บ" ได้แก่ 1.เก็บบ้านให้สะอาด โปร่ง โล่ง ไม่ให้เป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะ เศษภาชนะรอบบ้าน ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ สำรวจภาชนะใส่น้ำ ต้องปิดฝาให้มิดชิด ป้องกันยุงลายไปวางไข่ เพื่อป้องกันโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
เขียนข่าว ธัญญธร เยาวยอด