กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
TNR รุกปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ครั้งแรกในรอบ 8 ปี เน้นความทันสมัยและให้ความรู้สึกพรีเมียมเพื่อยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดดเด่น หลังได้สิทธิ์การขายและการตลาดจาก Playboy Enterprises International, Inc. เตรียมอวดโฉมทั่วโลกในเดือนธันวาคมนี้ พร้อมรุกเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในอเมริกาผ่านเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ชชั้นนำและรุกขยายตลาดในจีน ส่วนในประเทศไทยเตรียมนำสินค้าวางจำหน่ายเพิ่มเติมในร้านสะดวกซื้อ
นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทยและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องภายใต้แบรนด์ ONETOUCH(TM) และ PLAYBOY เปิดเผยว่า ได้รุกทำการตลาดถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นแบรนด์ PLAYBOY ทั่วโลก เพื่อผลักดันยอดขายสินค้า หลังจากเข้าซื้อสิทธิ์การขายและทำการตลาดเมื่อช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา โดยในเดือนธันวาคมนี้บริษัทฯ มีแผนเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ทั่วโลก ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปีนับตั้งแต่เริ่มมีการวางจำหน่ายสินค้าเป็นครั้งแรก
สำหรับบรรจุภัณฑ์ดีไซน์ใหม่ได้รับการออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทออกแบบจากต่างประเทศ โดยได้ปรับรูปแบบ ดีไซน์ พื้นผิวบรรจุภัณฑ์ และเทคนิคการพิมพ์ให้ดูสวยงามและทันสมัยยิ่งขึ้น ตลอดจนให้ความรู้สึกถึงการเป็นสินค้าระดับพรีเมียม มีเสน่ห์ หรูหรา เพื่อสร้างการจดจำภาพลักษณ์ใหม่ของแบรนด์ PLAYBOY ที่โดดเด่น ตั้งเป้าว่าการปรับโฉมบรรจุภัณฑ์ครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นผู้บริโภคตัดสินใจซื้อและเพิ่มโอกาสการขยายตลาดใหม่ ๆ ในต่างประเทศ
"หลังจากเข้าซื้อสิทธิ์แบรนด์ PLAYBOY เราได้ใช้เวลาในช่วงที่ผ่านมาพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ พร้อมทั้งเดินทางไปพบกับคู่ค้าในประเทศต่าง ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนาตลาดและวางแผนเพิ่มยอดขาย ขณะเดียวกันได้เจรจากับคู่ค้ารายใหม่ ๆ ในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10 ราย เช่น เยอรมัน ฟินแลนด์ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปานามา ฯลฯ ส่งผลให้ปัจจุบันสามารถทำการตลาดได้ครอบคลุมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก" นายอมร กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า บริษัทฯ ยังได้รุกเพิ่มช่องทางการจำหน่ายถุงยางอนามัยและผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่น PLAYBOY ทางออนไลน์และช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ โดยในประเทศสหรัฐอเมริกาที่เป็นตลาดใหม่ เตรียมนำเข้าสินค้าเข้าจำหน่ายผ่านเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ชชั้นนำในอเมริกา ส่วนในประเทศจีนได้พัฒนาสินค้าใหม่ร่วมกับคู่ค้า เพื่อนำเข้าไปจำหน่ายในไตรมาส 4 เพื่อรุกเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ ๆ เช่น การขายผ่านตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และ ร้านสะดวกซื้อชั้นนำในจีนต่อไป ขณะที่การขยายตลาดออนไลน์ในประเทศไทยนั้น ได้เริ่มนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเว็บไซต์อี-คอมเมิร์ช อาทิ JD และมีแผนขยายช่องทางไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ ในอนาคต นอกจากนี้ได้เจรจากับร้านสะดวกซื้อเพื่อนำถุงยางอนามัยแบรนด์PLAYBOY เข้าไปวางจำหน่ายเพิ่มเติม คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในไตรมาส 1 ของปีหน้า เพื่อเพิ่มยอดขายในประเทศไทย