กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--IR PLUS
JUBILE อวดผลงานไตรมาส 3 ปี 61 กวาดรายได้ 460 ลบ. กำไร 51 ลบ. เพิ่มขึ้น 14% พร้อมผลงานชิ้นล่าสุดกับการเปิดตัว Jubilee Inspire (New Concept Store) ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปลายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รวมถึงกลยุทธ์การตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งของยูบิลลี่ และ Forevermark "อัญรัตน์ พรประกฤต" ซีอีโอ มั่นใจรายได้ทั้งปีขยายตัวไม่ต่ำกว่า 5% ล่าสุดทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท เข้าสู่ยุค 4.0 เปิดตัวแอพพลิเคชัน "ยูบิลลี่ ไอโมเม้นท์" แหวนเพชรผสาน AI เป็นครั้งแรกของโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรอันดับหนึ่งของเมืองไทย มุ่งสร้างความแตกต่างซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักบุกตลาดถึงปีหน้า
นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JUBILE เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/2561 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 45 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 47% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 14% ทั้งนี้แม้สภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ผู้บริโภคยังคงจำกัดการจับจ่ายใช้สอย แต่บริษัทยังคงรักษาระดับรายได้โดยมีสินค้าใหม่ๆ เช่น สินค้าลิขสิทธิ์ของ Hello Kitty รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อการกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
"แม้ในช่วงไตรมาส 3/2561 กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ปรับตัวดีขึ้น แต่เชื่อว่าการที่บริษัทฯได้เปิดตัว New Concept Store ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และอีก 4-5 สาขาที่ทยอยเปิดตัวในไตรมาส 4/2561 เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ รวมถึงแผนการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งจากสาขาเดิมของยูบิลลี่ และฟอร์เอฟเวอร์มาร์ค จะยังสนับสนุนยอดขายให้เติบโตหนุนรายได้ทั้งปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 5%" นางสาวอัญรัตน์ กล่าว
ผลประกอบการในงวด 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 ล้านบาท คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกปี 2561 จำนวน 146 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวด 9 เดือนปี 2560 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 20%
นางสาวอัญรัตน์ กล่าวเพิ่มว่า ปัจจุบันธุรกิจเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค "Jubilee 4.0" สอดคล้องกับโลกที่ ทรานส์ฟอร์มสู่ยุค The Forth Industrial Revolution ปีหน้า "Jubilee" ก้าวสู่ปีที่ 90 สิ่งที่ทำให้ Jubilee เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง มาจากคำว่า "นวัตกรรม" แต่นวัตกรรมในที่นี้ ไม่ได้หมายความเฉพาะว่าต้องมีเครื่องจักร หรือเทคโนโลยี แต่เป็นกระบวนการหลังบ้านเราที่ใช้นวัตกรรมทุกส่วน เพื่อคิดต่าง และทำให้แตกต่าง
ขณะที่ในวันนี้ โลกเปลี่ยนไป มี Disruption เกิดขึ้นมากมาย และเกิด Digital Transformation ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ยิ่งคนรุ่นใหม่เกิดและเติบโตมากับเทคโนโลยี เพราะฉะนั้น "Jubilee" มองว่า "นวัตกรรม" ยังคงมีความสำคัญที่ทำให้เราสามารถอยู่ได้ในสภาวะแวดล้อมธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดบริษัทฯใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ปฏิวัติอุตสาหกรรมเครื่องประดับเพชรครั้งใหญ่ และเป็นครั้งแรกของวงการเพชรระดับโลก และในไทย ที่นำเทคโนโลยี "AI" (Artificial Intelligence) และพัฒนาแอปพลิเคชัน "Jubilee iMOMENT" สำหรับให้ลูกค้าใช้งานผ่านสมาร์ทโฟน มาผสานเข้ากับเครื่องประดับเพชร เพื่อเก็บความทรงจำในทุกโมเมนต์ประทับใจทั้งในรูปแบบวิดีโอ และรูปภาพไว้บน Cloud ซึ่งแต่ละคน มีประสบการณ์ และช่วงเวลาความสุข-ความประทับใจแตกต่างกัน นวัตกรรม "Jubilee iMOMENT" จึงตอบโจทย์ความต้องการ "Personalization" ได้เป็นอย่างดี ภายใต้แนวคิดเครื่องประดับทุกชิ้นมีโมเมนต์ที่น่าจดจำ ซึ่งลูกค้าที่ซื้อเครื่องประดับทุกชิ้นที่มีเทคโนโลยีไอโมเมนต์ สามารถนำช่วงเวลาที่ประทับใจไม่ว่าจะเป็น รูป วีดีโอ หรือข้อความที่ต้องการเก็บไว้ในเครื่องประดับยูบิลลี่ ไอโมเมนต์ชิ้นโปรดได้ โดยแคมเปญดังกล่าวได้เจาะตลาดกลุ่มลูกค้าคู่แต่งงานในเบื้องต้น
การพัฒนานวัตกรรมใหม่นี้ "Jubilee" ยังคงยึด "ความต้องการของลูกค้า" เป็นตัวตั้งก่อน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเทคโนโลยี การผลิต และพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งการนำเทคโนโลยี มาผสานกับแหวนเพชร เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และมีข้อจำกัดหลายด้าน ทั้งขนาดแหวน ที่ต้องรักษาความสวยงามไว้เหมือนเดิม ไม่ให้เทคโนโลยีมาเป็นข้อจำกัดให้แหวนมีขนาดใหญ่เทอะทะ และการออกแบบให้ใช้งานง่าย และสะดวก ทำให้ต้องใช้เวลาเกือบ 2 ปีในการพัฒนา เพื่อให้ได้นวัตกรรม Jubilee iMOMENT ที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้า Jubilee
ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโตของบริษัทฯ ผสานกับการสร้างแบรนด์ผ่านคุณภาพสินค้าและบริการอันเป็นเลิศ โดยวางเป้าหมายการเติบโตในปี 2562 ในเบื้องต้นจากการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ดังกล่าวที่ 5-8%