กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 08 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,214.50-1,223.27 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,150 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,300 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,260 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 170 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,430 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01 น. ของวันที่ 08/11/61)
แนวโน้มวันที่ 09 พฤศจิกายน 2561
ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐเป็นไปตามความคาดหมายของตลาด โดยพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและพรรคริพับลิกันกุมเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยเริ่มเห็นสัญญาณความร้อนแรง ทางการเมืองในฝั่งสหรัฐ เมื่อผู้นำพรรคเดโมแครตในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐประกาศตรวจสอบเกี่ยวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ในประเด็น เรื่องเงินคืนภาษีของปธน.ทรัมป์ ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ที่เป็นไปได้จากอาณาจักรธุรกิจของเขา และความขัดแย้งใดๆระหว่างรัสเซียและทีมหาเสียงของปธน.ทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2559 ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ต่อสู้ พรรเดโมแครต หากมีการเปิดประเด็นสอบสวนคณะบริหารของเขา แนวโน้มดังกล่าวสร้างแรงซื้อเข้าสู่ตลาดทองคำ ประกอบกับ คาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะเผชิญภาวะติดขัดทางการเมือง ลดโอกาสของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ในการผลักดันแผนกระตุ้นการคลัง อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำข้นขึ้นอย่างจำกัด เนื่องจากความขัดแย้งระหว่าง EU และอิตาลีเกี่ยวกับยอดขาดดุลงบประมาณของอิตาลีและความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ชะลอลงของยุโรป สกัดการปรับตัวขึ้นของยูโร ซึ่งดิ่งลง 4% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แผนขยายงบประมาณของรัฐบาลอิตาลีถูกวิจารณ์จากประเทศอื่นๆของ EU จากประเด็นการละเมิดกฎระเบียบการคลังของ EU โดย นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) เตือนว่าหนี้สินระดับสูงและการเติบโตในระดับต่ำของอิตาลีต้องการความรับผิดชอบในระดับหนึ่งมากกว่ากฎระเบียบของ EU นอกจากนี้ นายลีโอ วาราดคาร์ นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ กล่าวว่า โอกาสในการบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการถอนตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป (EU) ในเดือนนี้ กำลังลดน้อยลง ซึ่งEU จะจำเป็นต้องมีการบรรลุข้อตกลงเบร็กซิทภายใน 1 สัปดาห์ ถ้าผู้นำ EU ต้องการสนับสนุนข้อตกลงใดๆกับอังกฤษในเดือนพ.ย. ดังนั้นการเข้าซื้อสะสมจำเป็นต้องวางแผนให้ชัดเจน สุดท้ายอยากฝากว่าการเคลื่อนไหวของราคาที่แกว่งตัวมีเพียงวิธีการจัดพอร์ตการลงทุนเท่านั้นที่จะลดความเสี่ยงในการลงทุนและทำให้นักลงทุนสามารถรับความผันผวนของตลาดได้ซึ่งการลงทุนที่มากเกินไปจะสร้างความเสี่ยงสูง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆขึ้นมาบ้าง โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,232 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวรับได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,243ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,219 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับสำคัญบริเวณโซน 1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นในการเข้าสะสมทองคำนักลงทุนสามารถสังเกตได้ว่าราคาทองคำยังทำจุดต่ำสุดใหม่หรือไม่ ซึ่งหากไม่สามารถหยุดการทำในลักษณะนี้ได้ นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายโดยน่าจะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงไปอีก
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,219 (18,950บาท) 1,211 (18,750บาท) 1,197 (18,600บาท)
แนวต้าน 1,232 (19,250บาท) 1,243 (19,350บาท) 1,254 (19,500บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,219 (18,950บาท) 1,211 (18,750บาท) 1,197 (18,600บาท)
แนวต้าน 1,232 (19,250บาท) 1,243 (19,350บาท) 1,254 (19,500บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999