กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--ไอแอม พีอาร์
ปิดฉากลงไปแล้วสำหรับการประชุมสุดยอดผู้นำรุ่นใหม่ "One Young World Summit 2018"ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีคนรุ่นใหม่กว่า 2,000 คนจาก 196 ประเทศร่วมประชุม โดยในปีนี้ "เครือเจริญโภคภัณฑ์" ได้ดำเนินงานโครงการ "ซีพีสานฝัน ปันโอกาส สู่ผู้นำรุ่นใหม่ One Young World" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 สนับสนุนให้ผู้นำรุ่นใหม่จากกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์และผู้นำเยาวชนจากองค์กรภายนอก จำนวน 20 คนเป็นตัวแทนเยาวชนจากประเทศไทยเข้าร่วมในการประชุมในครั้งนี้
สำหรับพิธีเปิดการประชุม One Young World Summit 2018 ได้จัดขึ้น ณ วังสันติ (Peace Palace) กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา โดย สมเด็จพระราชินิแม็กซิม่าแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ Queen Maxima ได้กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมในพิธีเปิดว่า "หวังว่าการประชุมครั้งนี้จะให้และสร้างแรงบันดาลใจ ปัญญา มิตรภาพ และความหมั่นเพียร เพื่อให้ทุกคนจัดการกับสิ่งที่ต้องทำในภายภาคหน้าได้"
นายกเทศมนตรีแห่งกรุงเฮก Pauline Krikke กล่าวว่า "เมื่อพวกคุณกลับไปแล้ว ขอให้พวกคุณสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นต่อไป การประชุม One Young World สนับสนุนให้เกิดการจินตนาการเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดต่างๆ ในปัจจุบัน และขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนทำทุกอย่างเพื่อให้โลกใบนี้ดีขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นใครหรือมาจากไหน จงกล้าที่จะต่างและกล้าที่จะทำ"
ต่อจากนั้น Bob Geldof นักดนตรีและนักเคลื่อนไหว ได้สืบทอดเจตนารมณ์ของ Kofi Annan อดีตเลขธิการสหประชาติผู้ล่วงลับ โดยระบุว่า "โคฟี่มีความเชื่อว่าไม่มีเป้าหมายใดทะเยอทะยานเกินไป ตราบใดที่มีผู้คนมีพลังความเป็นเจ้าของและทำเป้าหมายให้สำเร็จ โคฟี่เคยกล่าวไว้ว่าการเปลี่ยนแปลงสามารถเกิดขึ้นได้ คุณไม่จำเป็นต้องเป็นคนใหญ่โต ถึงจะมีความคิดที่ยิ่งใหญ่ เราต้องไม่สิ้นหวัง ผู้นำที่ดีคือ ผู้ฟังที่ดี ผู้นำที่ดียังเป็นผู้ตามที่ดีด้วย ไม่มีใครเด็กเกินไปที่จะนำและไม่มีใครแก่เกินไปที่จะเรียนรู้ คุณคือผู้นำของวันพรุ่งนี้และสามารถเป็นความเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็น"
ด้าน ศาตราจารย์ Muhammad Yunus ผู้ก่อตั้งธนาคาร Grameen Bank และผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ กล่าวถึงความสำคัญของการจินตนาการเพื่อสร้างโลกใบใหม่ว่า "ลองจินตนาการดูว่าโลกจะเป็นอย่างไรหากคุณสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ และพวกคุณมีพลังที่จะสร้างโลก"
การประชุม One Young World Summit ในปีนี้ นอกจากหัวข้อหลักของการประชุมซึ่งปัญหาที่สำคัญของโลก 5 ด้านคือ 1.การศึกษา 2.สิ่งแวดล้อม 3.สุขภาพ 4.สิทธิมนุษยชน และ 5.การบรรเทาปัญหาความยากจนและการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ ที่ได้มีการแลกเปลี่ยนมุมมองแนวคิดและแรงบันดาลใจในการแก้ไขปัญหาอย่างหลากหลายแล้ว ยังได้เกิดการรวมตัวของกลุ่มผู้นำเยาวชนในการดำเนินงาน "โครงการต่อต้านความรุนแรงทางเพศ" ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อใช้ความมุ่งมั่นและองค์ความรู้ต่างๆ ที่มี เข้าไปจัดการกับปัญหาความรุนแรงเกี่ยวกับเพศทั้งในระดับพื้นที่และในระดับโลก
โดยกลุ่มผู้นำเยาวชนการต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ต่างเห็นพ้องตรงกันว่าความรุนแรงเกี่ยวกับเพศทุกรูปแบบคือการละเมิดสิทธิมนุษย์ชน ซึ่งปัจจุบันมีหนึ่งในสามของผู้หญิงและเด็กรวมถึงหนึ่งในหกของผู้ชายและเด็กชายทั่วโลกต้องเผชิญกับความรุนแรงเกี่ยวกับเพศในชีวิต และผลวิจัยล่าสุดยังพบว่าปัญหาเหล่านี้ทวีจำนวนมากขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา และถือว่าเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านมนุษยชน
นางสาวกมลนันท์ เจียรวนนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหารองค์กร Voice Foundation for Vulnerable Children หนึ่งในแกนนำกลุ่มผู้นำเยาวชนต่อต้านความรุนแรงทางเพศ ทั้ง 11 คน ได้แลกเปลี่ยนมุมมองปัญหาต่อที่ประชุมว่า ปัญหาความรุนแรงทางเพศยังเกิดขึ้นทุกวัน ทุกนาที และหลายเรื่องไม่ได้มีจุดจบที่ดี
"ถึงฉันจะภูมิใจที่เป็นคนไทย แต่ฉันไม่ภูมิใจที่เห็นเด็กขอทานไร้สัญชาติบนถนนซึ่งถูกกักขังควบคุมโดยผู้ที่เอาเปรียบ เด็กไร้สัญชาติมีความเสี่ยงต่อการถูกค้ามนุษย์ ใช้แรงงานเด็ก และความรุนแรงทางเพศ สิ่งนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าที่เด็กๆ ที่ไร้สัญชาติต้องประสบ และสิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเด็กเหล่านี้คืออนาคตของเรา ฉันมุ่งมั่นที่จะทำให้ชีวิตของเด็กเหล่านี้ดีขึ้น แต่ในขณะที่ยังทำอะไรไม่ได้มาก ฉันก็จะเป็นกระบอกเสียงให้กับพวกเขา"
และที่สำคัญการประชุมในปีนี้ยังได้มีการริเริ่มโครงการ "Lead2030" โดยมีปรึกษาผู้นำเยาวชนอาทิ Meghan Markle, Justin Trudeau และ Emma Watson ได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นเพื่อชักชวนให้เยาวชนทุกคนร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันให้เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN's Sustainable Development Goals: SDGs) ให้บรรลุผลสำเร็จ โดย Kate Robertson ผู้ร่วมก่อตั้ง One Young World กล่าวว่า "ตั้งแต่ปี 2553 ทูตเยาวชน One Young Worldได้ช่วยให้กว่า 17.5 ล้านคนมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งพิสูจน์ว่าเยาวชนสามารถทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ ซึ่งโครงการ Lead2030 จะทำให้ชุมชนและผู้นำเยาวชนสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม"
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ในในช่วงที่ตนเองยังเป็นอายุน้อยนั้น ได้พลาดหลายอย่างที่สำคัญในชีวิต เนื่องจากมุ่งมั่นแต่การทำงาน จึงทำให้มุมมองในชีวิตแคบไปอย่างน่าเสียดาย โดยกว่าที่จะรู้ว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่แท้จริงก็มีอายุมากแล้ว ดังนั้นการเข้าร่วมประชุม One Young World จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้คนรุ่นใหม่เกิดความตระหนักรู้และขยายมุมมองให้กว้างขึ้น โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือเมื่อมีความรู้แล้วต้องลงมือทำเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน 3 ประการ คือ สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม
"เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อมั่นว่าแรงบันดาลใจและองค์ความรู้ต่างๆ จากการประชุม One Young World รวมถึงพลังความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ จะสามารถกำหนดทิศทางและอนาคตของโลกให้เปลี่ยนแปลงไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ทั้ง 17 ข้อได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการพัฒนาทั้งธุรกิจและสังคมไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ภายใต้ค่านิยม 3 ประโยชน์คือ เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน และเพื่อองค์กร ที่สอดคล้องกับหลักการพัฒนาที่ยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่มุ่งมั่นเพื่อทุกชีวิตยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ 3 Hs ได้แก่ Heart :มุ่งมั่นทำธุรกิจด้วยใจที่ยั่งยืน Health : มุ่งมั่นสร้างสังคมที่ยั่งยืน Home : มุ่งมั่นเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน"
สำหรับการประชุม One Young World Summit ครั้งต่อไป ซึ่งเป็นครั้งที่ 10 มีกำหนดจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในระหว่างวันที่ 22-29 ตุลาคม 2562 โดยคาดว่าจะมีผู้นำเยาวชนคนรุ่นใหม่ไม่น้อยกว่า 2,000 คนจากทั่วโลกมาเข้าการร่วมประชุม ซึ่ง นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการองค์การสหประชาชาติผู้ล่วงลับ เคยกล่าวถึงการจัดการประชุม One Young World ไว้ว่า "ในทุกปีที่ฉันก้าวออกมาจากงานประชุมผู้นำเยาวชนโลก ฉันมีความหวังและความมั่นใจว่าอนาคตของเรายังไม่สูญสิ้น"