กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--Med Agency
ปัจจุบันประเทศไทยมี "เครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ" ทำกิจกรรมเพื่อให้ไทยปลอดบุหรี่ "ซึ่งสอดคล้องกับภาคเอกชน เน้นกิจกรรมสร้างสังคมให้อนาคตไร้ควันบุหรี่ Smoke Free Future และ ลดอันตรายจากบุหรี่มวน ลดเสี่ยงมะเร็งปอด
ล่าสุด medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ สาธารณสุข การท่องเที่ยว วาไรตี้ และ เพจ sasook รายงานว่า
นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงโรคมะเร็งเป็นปัญหาสำคัญทางสาธารณสุขของทุกประเทศทั่วโลก กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้เล็งเห็นและตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาโรคมะเร็งปอดที่คนทั่วโลกป่วยและเสียชีวิตมากที่สุด
สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับที่ 2ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ องค์การอนามัยโลก รายงานว่ามีผู้ป่วยรายใหม่ทั่วโลก 2 ล้านคนต่อปี และเสียชีวิต 1.7 ล้านคนต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติในปี 2557มีผู้ป่วยมะเร็งปอดเพศชายรายใหม่จำนวน 9,779 คน หรือคิดเป็น 27.4 คนต่อประชากรแสนคนและเพศหญิงจำนวน 5,509 คน หรือคิดเป็น 14.2 คนต่อประชากรแสนคน และในปี 2559 มีคนไทยเสียชีวิต13,414คนต่อปี
ด้าน นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่าปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอด คือ การสูบหรือรับควันบุหรี่ พันธุกรรม และสัมผัสสารก่อมะเร็งอื่นๆ
ที่พบว่าเป็นสาเหตุได้บ่อยในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งปอดเช่น ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสีควันธูป ควันจากท่อเสีย และมลภาวะทางอากาศ
อาการของมะเร็งปอดที่พบบ่อย ได้แก่ ไอเรื้อรัง ไอมีเสมหะเป็นเลือด หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ มีเสียงหวีด เสียงแหบหรือเสียงเปลี่ยนไป เจ็บหน้าอกหรือหัวไหล่ ปอดติดเชื้อง่าย เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งปอดที่มีประสิทธิภาพในระดับประเทศ แต่มีคำแนะนำให้ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงในการเกิดมะเร็งปอดเข้ารับการคัดกรองเป็นประจำทุกปี
หรือหากมีอาการผิดปกติเหล่านี้อย่างต่อเนื่องเกิน 3 สัปดาห์ ควรรีบปรึกษาแพทย์การรักษาโรคมะเร็งนี้ คือการผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัดการฉายรังสี และการรักษาโดยให้ยามุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็ง ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ในระยะใดของโรค
ดังนั้นการตรวจคัดกรองในรายที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดสูงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถค้นหาผู้ป่วยมะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกได้และให้การรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ทำให้ผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตสูงขึ้น
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การป้องกัน ด้วยวิธีง่ายๆเพียงแค่เริ่มต้น "เลิกสูบบุหรี่" เพื่อตัวคุณเอง ครอบครัวและสังคมรอบข้าง และหมั่นตรวจร่างกายเป็นประจำสม่ำเสมอ ออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
ขณะที่ medhubnews.com เว็บไซต์สุขภาพ ระบุว่า ขณะนี้ภาคประชาสังคมช่วยกันรณรงค์ให้ภาครัฐ คำนึงถึง "คนรักสุขภาพ" และ กลุ่มผู้สูบบุหรี่ 10 ล้านกว่าคน เข้าสู่สังคม "ปลอดควันบุหรี่" เพื่ออนาคตที่สดใส
ทั้ง คนไทย เยาวชนไทย ผู้รับควันบุหรี่มือสอง คาดหากทุกฝ่ายเข้าใจ ไร้มายาคติ จะรู้ว่า "พิษภัยบุหรี่มวน" ทำให้เกิดมะเร็งปอด และ นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพ หรือ ผลิตภัณฑ์ไร้ควัน ( Smoke-Free Products ) มาแทนที่บุหรี่ซิกาแรต จะลดอัตราย จนเข้าสู่สังคมไร้ควันได้เร็วๆ นี้