กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--เอ็น.ดี.รับเบอร์
NDR โชว์รายได้ Q3/61 อยู่ที่ 271.57 ลบ. พุ่ง 27.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่กวาดกำไร 13.76 ลบ. พุ่งแรง 640.98% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังเดินหน้ารุกตลาดทั้งในประเทศและตลาดในประเทศมาเลเซียเต็มสูบ "ชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา" มั่นใจ ผลงานปีนี้พลิกเป็นบวก หลัง 9 เดือนเหลือขาดทุน 2.22 ล้านบาท ส่วนรายได้ทั้งปีเชื่อมั่นเข้าเป้าแตะ 1,000 ลบ. โดย 9 เดือนทำได้แล้ว 728.89 ลบ.
นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2561 มีรายได้อยู่ที่ 271.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 212.50 ล้านบาท อันเป็นผลมาจากการรุกตลาดทั้งในประเทศและตลาดในประเทศมาเลเซีย โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2561 มีกำไรสุทธิ จำนวน 13.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 640.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.86 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 343.87% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3.10 ล้านบาท
นายชัยสิทธิ์ กล่าวอีกว่า แม้ว่าผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของบริษัทฯจะยังมีผลขาดทุนสุทธิอยู่เป็นจำนวน 2.22 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากค่าใช้จ่ายพิเศษในการเข้าซื้อกิจการในประเทศมาเลเซียในไตรมาส 1/2561 แต่ผลกำไรในไตรมาส 3/2561 ที่ผ่านมาก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าการเข้าซื้อกิจการที่ประเทศมาเลเซียเป็นการตัดสินใจที่จะทำให้บริษัทมีทั้งรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าผลประกอบการของบริษัทฯหลังจากนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มพลิกกลับมาเป็นบวกได้
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3/2561 บริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 8.66% และอัตรากำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 0.87% เพราะจำนวนยอดขายที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้เกิดประสิทธิภาพเชิงปริมาณ (economy of scale)
กรรมการผู้จัดการ NDR กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตมาอยู่ที่ระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 830 ล้านบาท หลังจากผลประกอบการ 9 เดือนแรกทำได้ดี โดยมีรายได้อยู่ที่ 728.89 ล้านบาท
"NDR ได้ก้าวผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วเมื่อไตรมาส 1/61 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นว่าเริ่มเห็นการพลิกกลับมาเป็นกำไรตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/61 เป็นต้นมาและเริ่มเด่นชัดในไตรมาส 3/61 โดยเพิ่มขึ้น 651.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่าทิศทางของบริษัทฯหลังจากนี้จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับแผนการรุกตลาดทั้งในประเทศและในประเทศมาเลเซีย จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปีนี้จะพลิกกลับมาเป็นบวกได้" นายชัยสิทธิ์ กล่าว