กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 09 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,217.50-1,223.67 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,100 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,050 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,200 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,190 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 09/11/61)
แนวโน้มวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561
ดอลลาร์แข็งค่าจากผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ที่ยืนยันจุดยืนการคุมเข้มทางการเงินด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยตามแผนเดิมที่วางไว้ แถลงการณ์ของเฟด สะท้อนคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในระดับที่แข็งแกร่งพอที่จะคุมเข้มนโยบายการเงิน โดยอ้างอิงเงินเฟ้อที่อยู่ใกล้ระดับเป้าหมาย 2% อัตราการว่างงานลดลงและความเสี่ยงต่อคาดการณ์เศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล นอกจากนี้ ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินยูโรยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์จากปัญหางบประมาณของอิตาลี โดยคณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอิตาลีอาจเติบโตชะลอตัวมากกว่าที่อิตาลีคาดหมายในช่วง 2 ปีข้างหน้า ทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสูงกว่าที่คาดหมาย ความขัดแย้งระหว่าง EU กับอิตาลีเรื่องยอดขาดดุลงบประมาณอิตาลีและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตชะลอตัวทางเศรษฐกิจของยุโรป ฉุดเงินยูโรให้อ่อนค่าลง 4.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ความแตกต่างด้านการคาดการณ์นโยบายการค้าระหว่างจีนและสหรัฐ สร้างความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าเพิ่มเติมระหว่างจีนและสหรัฐ โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีน ระบุว่า การพบปะกับปธน.ทรัมป์ของสหรัฐนอกรอบการประชุมG20ในอาร์เจนตินา จีนต้องการแก้ไขปัญหากับสหรัฐผ่านการเจรจา แต่สหรัฐต้องเคารพทางเลือกของเส้นทางการพัฒนาและประโยชน์ของจีน ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐที่ยังดำเนินต่อไป ขณะที่ธนาคารกลางจีน(PBOC)ได้กำหนดค่ากลางเงินหยวนสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ที่ 6.9329 หยวนต่อดอลลาร์ โดยลดลง 0.0166 หยวนหรือ 0.23% จากวันก่อนหน้าที่ 6.9163 หยวน เพิ่มแรงกดดันต่อราคาทองคำมากขึ้น ทั้งนี้ประเมินว่าการเคลื่อนไหวของราคาทองคำจะมีแนวรับบริเวณ 1,219-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยืนอยู่ราคาทองคำจะดีดตัวกลับไปในโซน 1,232-1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีปริมาณการซื้อขายอาจเบาบางในฝั่งสหรัฐวันจันทร์นี้ เนื่องจากธนาคารสหรัฐและตลาดพันธบัตรปิดทำการ เนื่องในวันทหารผ่านศึก(Veterans Day) แต่ตลาดทุน ตลาดเงิน และ ตลาดทองคำเปิดทำการตามปกติ
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบ นักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้น โดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,219-1,211 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ย เมื่อราคาอาจจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,232 หรือ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยง
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,219 (19,000บาท) 1,211 (18,900บาท) 1,197 (18,650บาท)
แนวต้าน 1,232 (19,250บาท) 1,243 (19,400บาท) 1,254 (19,600บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,219 (19,170บาท) 1,211 (19,050บาท) 1,197 (18,830บาท)
แนวต้าน 1,232 (19,380บาท) 1,243 (19,550บาท) 1,254 (19,720บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999