กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,203.70-1,211.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,000 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ18 อยู่ที่ 19,050 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 160 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,210 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.32 น. ของวันที่ 12/11/61)
แนวโน้มวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561
ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอังกฤษของนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษชัดเจนมากขึ้น เมื่อนสพ.ซันเดย์ ไทม์สรายงานว่า รัฐมนตรีอังกฤษ 4 คนที่สนับสนุนการยังคงอยู่ใน EU ใกล้ที่จะลาออกจากรัฐบาลของนายกฯเมย์จากประเด็นเบร็กซิท หลังจากที่นายโจ จอห์นสัน รมว.คมนาคม ลาออกจากรัฐบาลของนายกฯเมย์ โดยระบุถึงแผนเบร็กซิทไม่เหมาะสมและเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติอีกครั้ง ประกอบกับนักลงทุนกังวลว่า นายกฯเมย์จะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษต่อไปหรือไม่ เพราะมีเวลาไม่ถึง 5 เดือนก่อนที่อังกฤษจะถอนตัวจากสหภาพยุโรป(EU)ในวันที่ 29 มี.ค.ขณะที่ผู้เจรจายังติดขัดในประเด็นพรมแดนระหว่างสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ ประเด็นดังกล่าวกดดันสกุลเงินปอนด์ให้ร่วงลง จนกดดันราคาทองคำด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณของอิตาลี สร้างแรงกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ โดยก่อนหน้านี้คณะกรรมาธิการยุโรป(EC)ได้ปฏิเสธงบประมาณปี 2562 ของรัฐบาลอิตาลีไปเมื่อเดือนที่แล้ว โดย EU ให้เวลาอิตาลีจนถึงวันอังคารนี้ในการเสนองบประมาณฉบับที่มีการทบทวนปรับปรุง และอาจจะเริ่มมาตรการด้านวินัยต่ออิตาลีในช่วงต่อไปของเดือนนี้ นอกจากนี้ EU ยังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของอิตาลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเพิ่มความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับหนี้สินและแนวโน้มเศรษฐกิจของอิตาลี จนสร้างมุมเชิงลบต่อราคาทองคำเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีมีรายงานจากแหล่งข่าวว่า นายจิโอวานนี เทรีย รมว.เศรษฐกิจอิตาลีกำลังพิจารณาปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณต่อจีดีพีลง และกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการลดการใช้จ่ายภาครัฐในกรณีที่ยอดขาดดุลเพิ่มขึ้นเหนือระดับที่กำหนดไว้ ท่ามกลางแรงกดดันจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินปอนด์และสกุลเงินยูโร แนะนำลงทุนระยะสั้น หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านแต่ยังไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้เข้าซื้อขายเก็งกำไรระยะสั้นเช่นเดิม
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำอาจมีการดีดตัวในช่วงสั้นๆขึ้นมาบ้าง โดยประเมินแนวต้านแรกไว้ที่ระดับ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านได้มีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,224ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำมีแนวโน้มย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,200-1,197 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคายังหลุดแนวรับแรก ราคาทองคำจะปรับตัวลงสู่แนวรับถัดไปบริเวณโซน 1,189-1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เบื้องต้นในการเข้าซื้อทองคำทองคำนักลงทุนสามารถสังเกตว่าราคาทองคำยังทำจุดสูงสุดใหม่หรือไม่ ซึ่งหากราคาหยุดการทำในลักษณะนี้ แสดงว่าแรงซื้อกำลังอ่อนแรงลง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขาย โดยน่าจะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงมาอีกครั้งของราคา
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,197 (18,750บาท) 1,189 (18,600บาท) 1,180 (18,500บาท)
แนวต้าน 1,214 (19,050บาท) 1,224 (19,200บาท) 1,236 (19,400บาท)
GOLD FUTURES (GFZ18)
แนวรับ 1,197 (18,910บาท) 1,189 (18,790บาท) 1,180 (18,650บาท)
แนวต้าน 1,214 (19,190บาท) 1,224 (19,340บาท) 1,236 (19,530บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999