กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--IR PLUS
"ณัฐนัย อนันตรัมพร" บิ๊กบอส อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL ประกาศทุกกลุ่มธุรกิจจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2561 เชื่อทั้งปีไม่ทำให้ผิดหวัง ทั้ง บริการโครงข่าย ติดตั้งโครงข่าย และให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ พร้อมโชว์ Backlog กว่า 2,455 ล้านบาท ยิ้มรับผลงาน 9 เดือนปีนี้ รายได้พุ่งกระฉูดกว่า 100% กวาดรายได้รวม 1,282 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการรุกพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้นครอบคลุม 75 จังหวัด ผนวกกับรักษาฐานลูกค้าได้อย่างเหนียวแน่น และมีลูกค้าใหม่เพิ่มด้วยประสิทธิภาพของโครงข่ายและความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของการให้บริการ ล่าสุดรอลุ้นผลประมูลโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบเฟส 2 หนุนงานในมือเพิ่ม
นายณัฐนัย อนันตรัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL กล่าวถึง ผลประกอบการของบริษัทฯ ในงวด 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.2561) บริษัท มีรายได้รวม 1,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 650.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 102.90 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 631.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 98.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.12 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.68 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายอยู่ที่ 465.51 ล้านบาท รายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายอยู่ที่ 736.70 ล้านบาท รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ มีรายได้จำนวน 48.69 ล้านบาท รายได้ค่าบริการอื่น 25.72 ล้านบาท รายได้อื่นๆ 5.27 ล้านบาท
ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2561 บริษัทมีรายได้จากงานบริการโครงข่ายอยู่ที่ 169.20 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ40.24.ของรายได้รวม เทียบกับไตรมาส 3/2560 ที่มีรายได้ 131.69 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28.48% เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัด รวมทั้งเพิ่มเส้นทางเชื่อมต่อไปยังลูกค้า ในขณะเดียวกันโครงข่ายของบริษัทฯ เป็นที่รู้จักและได้รับความไว้วางใจด้วยคุณภาพของการให้บริการ ที่ SLA 99.99% เนื่องจากบริษัทมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการเติบโตตามปกติในทุกๆ ไตรมาส
ส่วนรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายอยู่ที่ 229.18 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 54.51 ของรายได้จากการให้บริการ เทียบกับไตรมาส 3/2560 ที่มีรายได้ 84.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 170.88 % แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคมให้แก่ลูกค้าจำนวน 228.08 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการเชื่อมต่อโครงข่ายลูกค้าเข้ากับโครงข่ายของบริษัทจำนวน 1.10 ล้านบาท โดยงวดนี้บริษัทมีการรับรู้รายได้งานโครงการที่สำคัญ คือ โครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบ จำนวน 159.60 ล้านบาท และงานรับเหมาติดตั้งโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกของผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายหนึ่งจำนวน 48.59 ล้านบาท
ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ มีรายได้จำนวน 22.06 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 5.25 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 10.69% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ เติบโตขึ้นจากรายได้ค่าไฟฟ้าที่สามารถเรียกเก็บจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการและรายได้จากการให้บริการดูแลศูนย์รับฝากข้อมูลหรือดาต้า เซ็นเตอร์ สำหรับธุรกิจให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ ในปีนี้คาดว่ารายได้จะเติบโตจากปี 2560 อย่างมีนัยสำคัญ โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีดาต้าเซ็นเตอร์ถึง 2 แห่ง โดยในแห่งแรกได้สร้างเสร็จและให้บริการเต็มพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และในส่วนดาต้า เซ็นเตอร์ แห่งที่ แห่งที่ 2 ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 1/2561 ที่ผ่านมา คาดภายในสิ้นปีนี้จะมีผู้ใช้บริการ 50-60% ส่วนแผนปี 2562 จะเปิดให้บริการพื้นที่ดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนที่เหลืออีก 30% เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มธนาคาร และหน่วยงานภาครัฐ
ทั้งนี้ งานให้บริการเชื่อมต่อข้อมูลหรือ ดาต้าเซอร์วิส ปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน ผู้ให้บริการมือถือ และในปีนี้บริษัทได้ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม เช่น ปั๊มน้ำมันซัสโก้ อิออน ศรีสวัสดิ์ เมืองไทยลิสซิ่ง และหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การประปาส่วนภูมิภาค เป็นต้น
ส่วนธุรกิจให้บริการติดตั้งโครงข่าย มีแนวโน้มเติบโตไปตามเทรนด์ 4G และ 5G จากการที่ผู้ให้บริการมือถือมีการขยายโครงข่าย โดย ITEL เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ที่ติดตั้งโครงข่าย ให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ชั้นนำ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะยังคงบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการรับงานติดตั้งโครงข่ายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากความเชี่ยวชาญของบริษัทฯ และลูกค้ามีความมั่นใจในบริการของบริษัทฯ อยู่แล้ว ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 3/2561 ที่ผ่านมา บริษัทได้ติดตามงานอินเตอร์เน็ทชายขอบอย่างใกล้ชิด ล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการอินเตอร์เน็ตชายขอบเฟส 2ซึ่งกสทช.ได้จัดประมูล 8 สัญญา มูลค่าสัญญาละ 2,500 ล้านบาท รวมมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 20,000 ล้านบาท ITEL ได้เข้าร่วมประมูล 3 สัญญา คาดว่าในช่วงปลายปี น่าจะมีความชัดเจน บริษัทคาดหวังจะได้งาน 1-2 สัญญา ในพื้นที่ภาคกลางหรือภาคใต้ หรือไม่ต่ำกว่า 15% ของมูลค่ารวม ซึ่งหากได้งานดังกล่าว จะทำให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
"ภาพรวมธุรกิจในปี 2561 มั่นใจว่ารายได้ทั้งปีของบริษัทจะเติบโตตามเป้าหมาย 40% หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท หลังจากงวด 9 เดือนที่ผ่าน มีรายได้เข้ามาแล้ว 1,282 ล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการรายได้เพิ่มขึ้น ITEL เชื่อมั่นว่าทั้งปีผลประกอบการสร้างสถิติใหม่ เพราะในช่วงไตรมาส 4/2561 คาดว่าแนวโน้มผลงานยังโตต่อเนื่อง และยังมีอีกหลายโครงการที่อยู่ระหว่างรอผลการประมูล ล่าสุดยังมีงานในมือกว่า 2,455 ล้านบาท โดยบางส่วนจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และเมื่อรวมกับรายได้ที่เข้ามาใหม่ทำให้มั่นใจได้ว่าการเติบโตจะไปถึงเป้าหมายเพื่อเสริมแกร่งรายได้แน่นอน" นายณัฐนัย กล่าว