กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ลีซ อิท
LIT โชว์ผลงาน 9 เดือนแรก กำไรสุทธิ 114.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดปล่อยสินเชื่อกว่า 8,037 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "สมพล เอกธีรจิตต์" มั่นใจที่จะรักษาการเติบโตให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อธุรกิจเพื่อ SMEs ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกนอกภาคสถาบันการเงินประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯในไตรมาส 3/61 มีรายได้รวม 120.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.33 ล้านบาท หรือ 6.49% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 112.98 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 38.44 ล้านบาท ลดลง 0.7 ล้านบาท หรือ 1.86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 39.17 ล้านบาท ในขณะที่พอร์ตลูกหนี้สินเชื่ออยู่ที่ 2,330 ล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อถึง 8,037 ล้านบาท
"สำหรับผมในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา ไตรมาส 3 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี อันเนื่องมาจากการเร่งการประมูลและการเบิกจ่ายของหน่วยงานภาครัฐ อย่างไรก็ตาม อานิสงค์ของเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ดีขึ้น ก็ยังไม่ได้ส่งผลในเชิงบวกโดยตรงแก่ผู้ประกอบการ SMEs มากนัก จึงทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ยังไม่สามารถแข่งขันและสร้างการเติบโตได้เหมือนเช่นปีที่แล้วๆมา แต่บริษัทฯก็ยังเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจได้" นายสมพลกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีรายได้รวม 336.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.94 ล้านบาท หรือ 8.70% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 309.64 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 114.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.60 ล้านบาท หรือ 4.18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 110.20 ล้านบาทโดยล่าสุด สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับ 4.87% และบริษัทฯ มีการตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาสที่ 3/2561 เป็น 6.03% ของยอดลูกหนี้คงเหลือ ทั้งนี้ เพื่อรองรับมาตรฐานการบัญชี TFRS9 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2563 และเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) กล่าวอีกว่า บริษัทฯ คาดหวังว่าบริษัทฯจะสามารถเพิ่มรายได้ในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดท้ายของปีได้ และบริษัทฯจะยังคงรักษาการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai (All Time High) โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 12/2561 ได้มีมติอนุมัติโครงการใหญ่ที่ทำงานให้กับภาครัฐ อาทิ โครงการปรับปรุงระบบวิทยุสื่อสารสู่ระบบดิจิตอล โครงการ USO Net โครงการพัฒนาระบบ Smart Metro Grid และโครงการบริการระบบเครื่องถอนเงินอัตโนมัติในระบบATM Pool ฯลฯ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯจะยังคงเดินหน้าตามแผนงาน 3 ปี (2561-2563) ทีได้มีการวางเอาไว้ โดยเตรียมย้ายหลักทรัพย์ไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และรักษาการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อปีให้ไม่ต่ำกว่า 20% ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการความเสี่ยง โดยจะดำเนินการจัดอันดับเครดิต (Credit Rating) ให้อยู่ในระดับ Investment Grade เพื่อให้บริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสมและได้เปรียบเชิงแข่งขัน
สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่ทำงานกับภาคราชการและบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ และกำลังมองหาสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ เช่น บริการรับซื้อหนี้ทางการค้าด้วยการเปลี่ยนบิลเป็นเงินสด (Factoring) สินเชื่อเพื่อค้ำซองประมูลงานภาครัฐ (Bid Bond) ที่อนุมัติเร็ว วงเงินสูง และไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ท่านสามารถสมัครสินเชื่อด่วนได้ที่ www.leaseit.co.th โดยเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 24 ชม. หรือเบอร์ 095-783-1595