กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติภัยในช่วงวันลอยกระทง โดยลอยกระทงในบริเวณที่ปลอดภัย ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด และไม่ให้เด็กลงไปเก็บเงินในกระทง รวมถึงหน่วยงานที่จัดงานลอยกระทง ควรตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของท่าน้ำและโป๊ะเรือ จัดพื้นที่ลอยกระทง ให้มีความมั่นคงปลอดภัย และแยกพื้นที่จุดพลุออกจากบริเวณจัดงาน ควรปล่อยโคมลอยในบริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง และไม่ลอยโคมใกล้บริเวณสนามบิน เล่นพลุหรือดอกไม้ไฟอย่างถูกวิธี อยู่ห่างจากบริเวณที่จุดพลุหรือดอกไม้ไฟในระยะ ไม่ต่ำกว่า 10 เมตร ไม่นำพลุหรือดอกไม้ไฟที่จุดไฟไม่ติดมาจุดไฟซ้ำ การปฏิบัติตามคำแนะนำ จะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มความปลอดภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า เทศกาลลอยกระทงเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยในหลายรูปแบบ ทั้งการจมน้ำ รวมถึงอันตรายจากพลุไฟ ดอกไม้ไฟ และโคมลอย เพื่อความปลอดภัยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ขอแนะข้อควรปฏิบัติเพื่อป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาลลอยกระทง ดังนี้ การป้องกันอุบัติภัยทางน้ำ ควรลอยกระทงในบริเวณที่ปลอดภัย ท่าน้ำและโป๊ะเรือมั่นคงแข็งแรง มีที่กั้นหรือราวจับป้องกันการพลัดตกน้ำ ไม่ให้เด็กอยู่ใกล้แหล่งน้ำหรือไปลอยกระทงตามลำพัง รวมถึงจับมือเด็กให้แน่นขณะเดินริมน้ำ เพื่อป้องกัน เด็กพลัดตกน้ำ รวมถึงไม่ให้เด็กลงไปเก็บเงินในกระทง เพราะอาจทำให้จมน้ำเสียชีวิตได้ หน่วยงานที่จัดงานลอยกระทง ควรตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของท่าน้ำและโป๊ะเรือ หากชำรุด หรือมีสภาพไม่ปลอดภัย ให้ดำเนินการแก้ไขทันที จัดพื้นที่ลอยกระทงให้มีความปลอดภัย มีรั้วกั้นป้องกันการพลัดตกน้ำ รวมถึงจัดพื้นที่จุดพลุออกจากบริเวณงาน เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การป้องกันอุบัติภัยจากโคมลอย ปล่อยโคมลอยในที่โล่งแจ้ง หากจากแหล่งชุมชนและแนวสายไฟ เพื่อป้องกันเพลิงไหม้จากโคมลอยตกใส่ ไม่ปล่อยโคมลอยบริเวณใกล้สนามบิน เพราะอาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานได้ การป้องกันอุบัติภัยจากพลุ ดอกไม้ไฟ ควรเล่นพลุหรือดอกไม้ไฟอย่างถูกวิธี โดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ยื่นอวัยวะเข้าใกล้พลุหรือดอกไม้ไฟที่จุดแล้ว รวมถึงไม่โดยใส่กลุ่มคน อยู่ให้ห่างจากบริเวณที่จุดพลุหรือดอกไม้ไฟในระยะ ไม่ต่ำกว่า 10 เมตร เพื่อป้องกันอันตรายจากสะเก็ดไฟ เล่นพลุหรือดอกไม้ไฟในที่โล่งแจ้ง ห่างจากแนวสายไฟ แหล่งชุมชน สถานีบริการน้ำมันและวัตถุไวไฟ เพื่อป้องกันสะเก็ดไฟตกใส่ ทำให้เกิดระเบิดและเพลิงไหม้ ที่สำคัญห้ามนำพลุหรือดอกไม้ไฟ ที่จุดไฟไม่ติดมาจุดไฟซ้ำหรือใช้ปากเป่า เพราะอาจระเบิด ทำให้ได้รับอันตราย ทั้งนี้ ควรจัดให้มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต อาทิ ชูชีพ ห่วงยาง ถังแกลลอน ไว้บริเวณท่าน้ำ จะได้ช่วยเหลือคนตกน้ำได้อย่างทันท่วงที รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิงประจำพื้นที่จุดพลุ หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น