กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ธามดี พลัส
บมจ.ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส แจ้งผลงาน 9 เดือนปี 2561 รายได้รวม 2,523 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 % และ 5% ตามลำดับจากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนไตรมาส 3 รายได้ 832 ล้านบาท กำไร 145 ล้านบาท ยอดตู้เติมเงินทั่วประเทศ 130,109 ตู้ ดันยอดเติมเงินรวมกว่า 31,538 ล้านบาท เหตุขยายตู้เติมเงินต่อเนื่องและเพิ่มแบงก์โอนเงินได้รับการตอบรับดี ผู้บริหารชี้มูลค่าการเติบโตปีนี้ตามเป้าหมาย พร้อมลุยธุรกิจขายซิมมือถือปลายปี
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือ FSMART ผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทยผ่าน "ตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติม" เปิดเผยผลประกอบการงวด 9 เดือน ปี 2561 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 2,523 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% และกำไรสุทธิอยู่ที่ 441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 2,272 ล้านบาท กำไรสุทธิ 420 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของผลประกอบการดังกล่าวมาจากการที่บริษัทขยายจำนวนตู้เติมเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีตู้เติมเงินบุญเติมทั่วประเทศ 130,109 ตู้ เพิ่มขึ้น 10,943 ตู้ หรือคิดเป็น 9.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีอยู่ 119,166 ตู้ และผลักดันมูลค่าการเติมเงินรวมอยู่ที่ 31,538 ล้านบาท
ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 832 ล้านบาท กำไรสุทธิ 145 ล้านบาท โดยในไตรมาสนี้บริษัทดำเนินการเพิ่มบริการใหม่หน้าตู้ ได้แก่ บริการโอน-ฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เพิ่มเข้ามาในช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา และถือเป็นธนาคารที่ 3 ที่ให้บริการในตู้บุญเติมนอกเหนือจากธนาคารกรุงไทย และธนาคารกสิกรไทย ส่งผลต่อรายได้จากช่องทางการโอนเงินในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นประมาณ 6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายได้ในช่องทางการโอนเงินยังเติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบริษัทมีการเพิ่มบริการใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ตู้เติมเงินบุญเติมมีบริการที่หลากหลายมากกว่าการเติมเงินมือถือที่ยังเป็นรายได้หลักของบริษัท รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพเพื่อให้ตู้เติมเงินบุญเติมเป็นตัวแทนที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ พร้อมตอบสนองความต้องการด้วยบริการที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด ทั้งช่องทางการเติมเงินมือถือ การฝากและโอนเงินเข้าธนาคาร การรับชำระบิลต่างๆ การเติมเงินเข้า E-Wallet และการรับชำระบิลอื่นๆ ที่มีกว่า 70 รายการ และเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มการใช้งานผ่านตู้บุญเติมให้มากกว่า 2.2 ล้านรายการวันในปัจจุบัน
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 4 บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการตู้ให้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะจุดติดตั้งตู้บุญเติมที่มีความเป็นไปได้ว่าจำนวนตู้เติมเงินอาจจะลดลงจากประมาณการไว้ที่สิ้นปี 2561 มี เพื่อหาทำเลที่ตั้งสำหรับตู้ที่มียอดเติมเงินไม่ได้ตามเป้าหมายให้ได้จุดคุณภาพที่จะส่งผลต่อยอดเติมเงินระยะยาว ซึ่งจะช่วยบริหารยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้ (ARPU)ให้เติบโตตามเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทจะเพิ่มบริการใหม่ๆ อาทิ การรับชำระบิลค่าโทรศัพท์ TOT การจำหน่ายบัตรเงินสด Bein (ดูบอล online) และการเป็นตัวแทนรับฝากการออมเงินกับ กอช ผ่านตู้บุญเติม เป็นต้น รวมถึงบริการอื่นๆที่จะเป็นช่องทางในการเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท และจะช่วยสนับสนุนให้มูลค่าการใช้บริการผ่านตู้บุญเติมปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ บริษัทฯยังเตรียมดำเนินการธุรกิจการจำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือให้กับค่ายมือถือผ่านตู้บุญเติม เพื่ออำนวยความสะดวกทั้งผู้ใช้บริการที่สามารถเลือกเบอร์ที่ต้องการ และพร้อมใช้งานได้ทันทีหลังดำเนินตามขั้นตอนจากตู้ โดยตลาดขายซิมการ์ด Prepaid ที่มียอดจำหน่ายโดยรวมที่ 1-2 ล้านซิมการ์ดต่อเดือน คาดว่าจะเป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัทด้วยจุดแข็งเรื่องจำนวนตู้บุญเติมที่บริการอยู่ทั่วประเทศและเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้อีกช่องทางหนึ่ง