กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--บางกอก พับบลิค รีเลชั่นส์
เอพีประกาศความสำเร็จรายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2561 พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์กว่า27,110 ล้านบาท ผลจากการที่สินค้าแนวราบและคอนโดโตต่อเนื่อง ชูไฮไลต์เด็ดประจำไตรมาส VITTORIO อัลตร้า-ลักซ์คอนโดมิเนียม คีย์ไดรฟ์สำคัญหนุนรายได้พุ่งหลังปิดการขายทั้งโครงการ ด้านกำไรสุทธิรวม โตขึ้น 62% หรือกว่า 2,900 ล้านบาท ยอดขายรวม 10 เดือนคิดเป็น 38,540 ล้านบาท โค้งสุดท้ายของปีเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีเตรียมยิ้มรับยอดขายที่คาดว่าจะทะลุเป้าอีกครั้ง
นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) กล่าวว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาถือว่าเกินความคาดหมายเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมของเอพี ณ สิ้นไตรมาส 3ของปี มีอัตราการเติบโตที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ โดยสร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV) และธุรกิจอื่นๆ ได้สูงถึง 27,113 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.9%หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 18,090 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากที่สินค้าแนวราบและคอนโดเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะใน ไตรมาส3 นี้ ส่วนหนึ่งของยอดรับรู้รายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการทยอยโอนกรรมสิทธิ์โครงการVITTORIOคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ระดับอัลตร้า-ลักซ์ซึ่งปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูงสามารถปิดการขายทั้งโครงการได้เป็นที่เรียบร้อย ด้านกำไรสุทธิรวม ณ สิ้นไตรมาส3(Net Profit) สูงถึง 2,903 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 62% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560ที่มีกำไรสุทธิรวมเท่ากับ 1,792 ล้านบาท
"หนึ่งในKey Success ของการพัฒนาโครงการเอพีคือ การมีสินค้าที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการของคนเมือง ทั้งในเรื่องของโมเดลสินค้าที่พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานการเข้าใจถึงความต้องการแฝงอย่างแท้จริง การกำหนดแพคเกจราคาขาย ตลอดจนจำนวนโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลรอบกรุงเทพ ซึ่งโครงการ VITTORIO ถือเป็นหนึ่งใน Key Drive ที่สำคัญต่อการเติบโตของรายได้รวม ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปีนี้ นอกเหนือจากโครงการอื่นๆ ของเอพีทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมที่ภาพรวมการโอนกรรมสิทธิ์ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าเครือ เอพีเสมอมา ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้รวมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน" นายอนุพงษ์ กล่าวเสริม
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 10เดือนแรก ณ วันที่ 31 ตุลาคมนี้ บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 38,545ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียมมูลค่า 20,930ล้านบาท แนวราบมูลค่า 17,615 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายได้แล้วราว 96.8%ของเป้ายอดขายปี 2561 ที่ปรับขึ้นใหม่ (เป้ายอดขาย39,800 ล้านบาท)
ทั้งนี้ในไตรมาส4 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการทั้งสิ้น12 โครงการ มูลค่า 16,840 ล้านบาท เปิดไปแล้วจำนวน9 โครงการ 13,200ล้านบาท คงเหลือเปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปีอีกจำนวน3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,640 ล้านบาท โดยหนึ่งในไฮไลท์คือการเปิดพรีเซลคฤหาสต์หรูThe Palazzo ศรีนครินทร์อย่างเป็นทางการในวันที่ 17-18 พฤศจิกายนนี้ รวมถึงยังคงมีโครงการอยู่ในพอร์ตพร้อมขาย ในทำเลศักยภาพรอบกรุงเทพอีกกว่า100 โครงการ มูลค่าคงเหลือขายประมาณ53,000 ล้านบาท ซึ่งมั่นใจว่า ณ สิ้นปีจะสามารถทำยอดขายทะลุเป้าได้อย่างแน่นอน
"บริษัทฯ ยังคงมุ่งสู่เป้าหมายใหญ่ในการนำพาเอพีก้าวขึ้นสู่การเป็น1 ใน 3 ของผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ภายใต้พันธกิจสำคัญ คือการส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีในการอยู่อาศัย ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการคิดค้นนวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย และวางแผนจัดตั้งหน่วยงานพิเศษ เพื่อทำหน้าที่ค้นหา คิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ส่งเสริมและยกระดับรูปแบบการดำเนินชีวิตสู่ประสบการณ์อยู่อาศัยในอสังหาริมทรัพย์สู่วิถีใหม่ๆ อย่างครบถ้วนด้วยคุณภาพ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย เข้าถึงความหมายของคำว่าคุณภาพชีวิตที่ลูกค้าต้องการอย่างแท้จริง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้น" นายอนุพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ สรุปตัวเลขทางการเงินเฉพาะไตรมาส3 ปี2561 บริษัทฯ มีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบกลุ่มคอนโดมิเนียม (100%JV)และธุรกิจอื่นๆ เท่ากับ 9,203 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น54.3% หากเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ5,965 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ915 ล้านบาท เติบโต43.9% หากเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2560 ที่ได้ 636 ล้านบาท
ณ 31ตุลาคม 2561 บริษัทฯ มีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog)มูลค่ามากถึง 54,147 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว7,542ล้านบาท และคอนโดมิเนียมมูลค่า 46,605 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ภายในปีประมาณ4,025 ล้านบาท และส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566
"เอพี ไทยแลนด์ กล้าที่จะแตกต่าง ผู้นำด้านนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสำหรับคนเมือง"