กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.อุบลราชธานี
นายแพทย์ดนัย เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่10 จังหวัดอุบลราชธานี (สคร.10) กล่าวว่า สหพันธ์โรคเบาหวานนานาชาติ ได้กำหนดให้ วันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันเบาหวานโลก (World diabetes day) และกำหนดประเด็นสารรณรงค์ในปี 2561 คือ "The Family and Diabetes : เพราะครอบครัวเป็นส่วนสำคัญในการรักษาเบาหวาน" เนื่องจากโรคเบาหวานมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัวเป็นอย่างมาก สมาชิกในครอบครัวต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้สมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคเบาหวานดูแลตนเองได้ดีขึ้น และการปรับเปลี่ยนวิธีชีวิตของคนในครอบครัว ทำให้เกิดผลดีทั้งผู้ป่วยและสมาชิกคนอื่นในครอบครัว
โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ป่วยเป็นโรคเบาหวานนอกเหนือจากเรื่องของพันธุกรรมแล้ว คือพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ได้แก่ รับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว อาหารที่มีความหวานจากน้ำตาล การรับประทานข้าวขาวในปริมาณที่มากเกินไป ซึ่งทำให้เสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น และหากผู้ป่วยเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ จะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนกับอวัยวะส่วนต่าง ที่สำคัญได้แก่ โรคเบาหวานเข้าจอประสาทตา เป็นสาเหตุที่สำคัญของการสูญเสียการมองเห็น โรคไตวายเรื้อรัง ภาวะแทรกซ้อนทางเท้า อุบัติการณ์การเกิดแผลเท้าเบาหวาน ภาวะแทรกซ้อนทางหลอดเลือดหัวใจ
ทั้งนี้ การสร้างเสริมสุขภาพไม่ให้น้ำหนักตัวมากเกิน ดำรงชีวิตด้วยหลัก "3 อ. 2 ส." ได้แก่ อ.แรก - อาหาร เลือกรับประทานอาหารไม่หวานจัด มันน้อย เค็มน้อย รับประทานปริมาณเหมาะสม มีผักและผลไม้พอเหมาะ อ.2 - ออกกำลังกาย ประมาณ 50-60 นาที อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ หรือให้ได้ 150 นาทีต่อสัปดาห์ อ.3 - อารมณ์ ไม่ตึงเครียด จัดการความเครียดอย่างเหมาะสม ทำจิตให้สงบ มีสมาธิ ส.แรก - งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงจากสถานที่ที่มีควันบุหรี่ ส.2 – งดดื่มสุรา จะช่วยลดและชลอ หรือป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนได้