กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--Bangkok Public Relations
- เปิดเรื่องราวชีวิตของบุคคลที่ได้รับการเคารพยกย่องมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย
- เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์นายอานันท์ ปันยารชุน และผู้อยู่ในเหตุการณ์จริง นับร้อยๆ การสัมภาษณ์
- เป็นหนังสือที่เต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยที่ไหนมาก่อน ทั้งที่เกี่ยวกับประเทศไทยและเกี่ยวกับนายอานันท์ ปันยารชุน
วันนี้ สำนักพิมพ์เอดิซิยองส์ ดิดิเยร์ มิลเยต์ หรือ อีดีเอ็ม บุ๊คส์ ผู้จัดพิมพ์หนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญ ประวัติศาสตร์ หนังสืออ้างอิง และหนังสือรวมภาพถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่เกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนหลายร้อยเล่ม ประกาศเปิดตัวหนังสือชีวประวัตินายอานันท์ ปันยารชุน ชื่อหนังสือว่า 'Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand' ซึ่งเป็นหนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญเล่มล่าสุดที่เป็นที่จับตามองเป็นอย่างสูง เนื่องจากนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นผู้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นบุคคลที่มีความปราดเปรื่องและทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย โดยตลอดระยะเวลายาวนานและเต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญมากมายในช่วงชีวิตของนายอานันท์นั้น นอกจากชีวิตการรับราชการที่เจริญก้าวหน้ามาโดยตลอดในฐานะนักการทูต นายอานันท์ยังเป็นผู้นำธุรกิจ นักสังคมสงเคราะห์ นายกรัฐมนตรี นักเสรีนิยมทางเศรษฐกิจ และนักปฏิรูปสังคมที่อุทิศตนให้กับการพัฒนาประเทศไทย
นายโดมินิค ฟอลเดอร์ นักหนังสือพิมพ์ชื่อดังซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือ Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand ได้เขียนเล่าย้อนถึงเหตุการณ์สำคัญในชีวิตของบุรุษอาวุโสท่านนี้ ตั้งแต่ช่วงชีวิตในวัยเด็กในกรุงเทพฯ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปจนถึงการสิ้นสุดลงของอาชีพข้าราชการการทูต การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบเหนือความคาดหมายโดยการแต่งตั้งสองสมัย และบทบาทในการร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนปี 2540 รวมถึงเหตุการณ์สำคัญอื่นอีกมากมาย
หนังสือ Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand เป็นมากกว่าหนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญ หากแต่เป็นหนังสือที่นำเสนอเรื่องราวของประเทศไทยและภูมิภาคนี้ ในด้านประวัติศาสตร์การเมือง สังคมและเศรษฐกิจช่วงศตวรรษที่ 20 อย่างครอบคลุมรอบด้าน อีกทั้งยังมีการลงลึกในรายละเอียดของช่วงเวลาสำคัญ โดยเป็นข้อมูลที่ได้มาจากการค้นคว้าข้อมูลวิจัยเชิงลึกเป็นเวลายาวนานถึง 6 ปี และได้รับการเอื้อเฟื้อข้อมูลจากผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์จริง หรือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในเหตุการณ์นั้นๆ ผ่านการสัมภาษณ์นับร้อยๆ ครั้ง ทั้งการสัมภาษณ์นายอานันท์เอง และการสัมภาษณ์บุคคลที่เคยพบปะหรือทำงานใกล้ชิดกับนายอานันท์ โดยในบรรดาผู้ที่ให้สัมภาษณ์นี้ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย นายเอส อาร์ นาธาน อดีตประธานาธิบดีของสิงคโปร์ผู้ล่วงลับ นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ นักวิจารณ์สังคมฝีปากกล้า นางสายสุรี จุติกุล นักต่อสู้เพื่อสิทธิเด็กและสตรี รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่างนายอัมมาร สยามวาลา นายอำนวย วีรวรรณ นายเสนาะ อูนากูล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนา และนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน
การเปิดเผยข้อมูลโดยบุคคลดังกล่าวข้างต้น และผู้ที่มีชื่อเสียงท่านอื่นๆ อีกมากมาย รวมทั้งตัวนายอานันท์เอง ทำให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงและเรื่องราวหลายเรื่องที่ไม่เคยมีใครได้รับรู้มาก่อน อีกทั้งยังได้มุมมองใหม่ๆ ในประเด็นต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น สงครามเวียดนามและการถอนทหารสหรัฐออกจากภูมิภาค ความสัมพันธ์ไทย-จีน และสถานการณ์ยุ่งเหยิงทางการเมืองของไทย นอกจากนี้ ในหนังสือ ยังมีบทเรียนจากประวัติศาสตร์ที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีการกล่าวถึงประเด็นปัญหาที่เป็นความท้าทายทางการเมืองและสังคม ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันด้วย
Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand เป็นหนังสือที่สะท้อนตัวตนของบุคคลสำคัญที่เป็นเจ้าของชีวประวัติ โดยตลอดทั้งเล่มมีการสอดแทรกเรื่องเล่าจากความทรงจำของนายอานันท์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ตั้งแต่การใช้ชีวิตนักศึกษาหลังสงครามในประเทศอังกฤษ ไปจนถึงการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของไทยสองสมัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคิดของสุภาพบุรุษที่มีชื่อเสียง และได้รับการยกย่องในด้านความซื่อสัตย์ ความเปิดเผย และความตรงไปตรงมา แม้จะเผชิญกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน โดยมีตัวอย่างบางตอนจากหนังสือ อาทิ
"จากนั้นนายอานันท์ได้วางเงื่อนไขในการทำงานกับคณะทหาร 3 ข้อ ซึ่งจะต้องยึดถือกันตลอดช่วงเวลาของรัฐบาลภายใต้การนำของนายอานันท์ 'ข้อหนึ่ง อะไรที่ผมทำในฐานะนายกรัฐมนตรี ผมจะพยายามอธิบายให้คุณฟัง ข้อสอง ผมจะไม่แทงคุณข้างหลัง และผมก็คาดหวังว่าคุณจะไม่แทงผมข้างหลังเช่นกัน และข้อสาม ผมคือนายกรัฐมนตรี"
"ผมไม่คิดว่าพวกเขาเคยพบใครที่เหมือนกับผมมาก่อน" นายอานันท์รำลึกถึงวันที่ถูกผู้นำคณะรัฐประหารเชิญไปพบ นี่คืออดีตข้าราชการประจำที่กลายมาเป็นนักธุรกิจซึ่งขณะนั้นอยู่ในชุดสูท กำลังเผชิญหน้ากับเหล่า นายพลที่สวมเครื่องแบบทหารเรียบกริบ และประกาศเจตนารมณ์ที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และจะเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" – จากบทที่ 9 หัวข้อ A Tale of Two Coups (1991)
"เราไม่ใช้สติตระหนักถึงความหลากหลายของประเทศเราเอง คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้ประวัติศาสตร์ของตัวเองว่าเมื่อ 800 ปีก่อน เราก็เหมือนกับรัฐมหาราชาที่มีเจ้าปกครองแยกกันเป็นแคว้นๆ แบบในอิตาลีหรือเยอรมันในตอนนั้น เราไม่มีราชอาณาจักรสยาม แต่อยู่ๆ เรากลับมาหมกมุ่นอยู่กับมโนทัศน์ผิดๆ เกี่ยวกับความเป็นไทย และความเป็นประเทศไทยในฐานะรัฐเดี่ยวแบบที่ไม่มีความหลากหลาย ความหมกมุ่นแบบนี้ ผมเห็นว่าเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของราชอาณาจักร" – จากบทที่ 20 หัวข้อ Representing Thailand
หนังสือ Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เอดิซิยองส์ ดิดิเยร์ มิลเยต์ (อีดีเอ็ม บุ๊คส์) มีกำหนดเปิดตัวหนังสืออย่างเป็นทางการ ในวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน 2561 เวลา 18.30 น. ณ โรงแรมแบงค็อกแมริออท เดอะสุรวงศ์ ซึ่งจัดงานโดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และภายในงานจะมีปาฐกถาโดยนายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ก่อตั้งและประธานมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีอยู่ในรัฐบาลของนายอานันท์ ในปี พ.ศ. 2534 และ 2535 รวมทั้งจะมีการพูดคุยแนะนำหนังสือโดยนายโดมินิค ฟอลเดอร์ ผู้เขียน และนายนิโคลาส กรอสแมน บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์อีดีเอ็ม บุ๊คส์
นายโดมินิค ฟอลเดอร์ เป็นผู้สื่อข่าวและบรรณาธิการที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดในวงการมาอย่างยาวนาน เกิดที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แต่เดินทางมาทำงานประจำอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อประมาณต้นทศวรรษที่ 1980 เคยทำงานให้กับหนังสือและสำนักข่าวหลายแห่ง โดยก่อนหน้านี้ เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษให้กับนิตยสารรายสัปดาห์เอเชียวีคของฮ่องกง มีส่วนร่วมในการทำข่าวในประเทศเมียนมาและกัมพูชาในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 และเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์นิคเกอิ เอเชียน รีวิว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557
อีดีเอ็ม บุ๊คส์ มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศสิงคโปร์ เป็นผู้จัดพิมพ์หนังสือชีวประวัติบุคคลสำคัญ ประวัติศาสตร์ หนังสืออ้างอิง และหนังสือรวมภาพถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่เกี่ยวกับประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีออกมาแล้วจำนวนหลายร้อยเล่ม โดยหนังสือของอีดีเอ็ม บุ๊คส์ที่เป็นที่รู้จักกันดีก่อนหน้านี้ ได้แก่ An Unexpected Journey – Path to the Presidency (S.R. Nathan); A Chance of a Lifetime – Lee Kuan Yew and A Physical Transformation of Singapore; A History of the Thai Chinese และ King Bhumibol Aduldej: A Life's Work
หนังสือ Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand เป็นหนังสือปกแข็ง 608 หน้า รวมภาพประกอบ 32 หน้า มีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และที่ร้านหนังสือเอเชีย บุ๊คส์ และร้านคิโนะคูนิยะ ในราคาเล่มละ 1,250 บาท สำหรับต่างประเทศสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ทาง Amazon.com หรือติดต่อสำนักพิมพ์ อีดีเอ็ม บุ๊คส์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-018-7808
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
สำนักพิมพ์อีดีเอ็ม บุ๊คส์: โทรศัพท์ 02-018-7808 หรือ bhimsupa@edmbooks.com.sg
Synopsis / สรุปใจความสำคัญของหนังสือ Anand Panyarachun and the Making of Modern Thailand
เรียบเรียงจากการสัมภาษณ์นับร้อยๆ การสัมภาษณ์ หนังสือเล่มนื้คือหนังสือเรื่องราวที่น่าสนใจของบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย ผู้อยู่ท่ามกลางฉากหลังการรัฐประหารและความรุนแรงทางการเมือง กลอุบายสงครามเย็น และความขัดแย้งในภูมิภาค นายอานันท์ ปันยารชุน ขึ้นสู่จุดสูงสุดของสายงานด้านการต่างประเทศของไทย และได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งสองสมัย ตลอดช่วงชีวิตที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ด้วยความซื่อสัตย์เปิดเผย และความตรงไปตรงมาได้สร้างความโดดเด่นให้กับตัวนายอานันท์ แต่ก็ด้วยลักษณะพิเศษนี้ ในแง่หนึ่งได้ส่งผลกระทบต่ออาชีพทางการทูต แต่อีกแง่หนึ่งได้นำพานายอานันท์ไปสู่การเป็นผู้แทนของประเทศไทยในระดับนานาชาติที่มีบทบาทในการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตหลายต่อหลายครั้ง
ในหนังสือชีวประวัติเล่มนี้ นายโดมินิค ฟอลเดอร์ ผู้สื่อข่าวที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดได้เล่าถึงเหตุการณ์สำคัญตั้งแต่ช่วงชีวิตในวัยเด็กในกรุงเทพฯ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 และการใช้ชีวิตยาวนานในอเมริกาเหนือในฐานะผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ และเอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแบบเหนือความคาดหมายสองสมัย บทบาทสำคัญในความพยายามที่จะปฏิรูปรัฐธรรมนูญที่ยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย และเหตุการณ์สำคัญอื่นอีกมากมาย หนังสือเล่มนี้มีการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ในเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ประเทศไทยในยุคหลัง และนำเสนอความทรงจำและมุมมองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ตั้งแต่สงครามเวียดนาม ไปจนถึงความสัมพันธ์กับประเทศจีน สถาบันพระมหากษัตริย์ และแนวทางในการก้าวผ่านสถานการณ์ยุ่งเหยิงทางการเมืองของไทย