กรุงเทพฯ--15 พ.ย.--เอเซีย พรีซิชั่น
APCS เผยผลประกอบการไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิ 79.06 ล้านบาท พุ่งกระฉูด 138.27 % จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 33.18 ล้านบาท เหตุรับรู้รายได้จากโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของบริษัทย่อย "เอทูเทคโนโลยี" และงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า งานระบบสาธารณูปโภคคึกคัก สิ้นปีรอลุ้นคว้างานประมูลสถานีไฟฟ้า กฟผ.และ กฟภ. รวมถึงงานโซลาร์ภาคเอกชน ขณะที่ตุนแบ็กล็อคเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 3 พันล้าน ด้านธุรกิจยานยนต์ แนวโน้มเติบโตดี มีคำสั่งซื้อไหลเข้าต่อเนื่อง ฟากบอส "อภิชาติ การุณกรสกุล" มั่นใจผลประกอบการปีนี้ ส่งสัญญาณแจ่มโตก้าวกระโดดจากปีก่อน
นายอภิชาติ การุณกรสกุล กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอเซีย พรีซิชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ APCS เปิดเผยว่าผลประกอบการในงวดไตรมาส 3/2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 874.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 182.68% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 309.28 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 79.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.27% จากงวดเดียวกันทำได้ 33.18 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือน มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,869.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.90%จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 984.65 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 178.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.14% จากงวดเดียวกันปีก่อนทำได้ 127.41 ล้านบาท
เนื่องจาก บริษัท เอทูเทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ APCS เริ่มทยอยรับรู้รายได้งานบริหารจัดการขยะมูลฝอยชุมชน เพื่อผลิตพลังงานด้วยเทคโนโลยีเชิงกล-ชีวภาพที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ของบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด และปัจจุบันมีความคืบหน้า 40 -50% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญางานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภคภาคเอกชนหลายโครงการ อย่างต่อเนื่องมูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท
ขณะเดียวกันยังร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเข้าร่วมประมูลงานสถานีไฟฟ้า (Substation) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ที่ประกาศให้ยื่นซองประมูลมูลค่า 1,900 ล้านบาท โดยจะทราบผลผู้ชนะการประมูลในช่วง 2 เดือนข้างหน้า หากบริษัทฯ ได้รับงานดังกล่าวจะส่งผลให้มีมูลค่างานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีงานในมืออยู่ที่ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงานใหม่ และงานที่รอส่งมอบอีกมูลค่า 1,880 ล้านบาท เข้ามาสนับสนุน Backlog ในอนาคต
สำหรับงานยังคงเน้นงานรับเหมาฯ พลังงานทางเลือกกับกลุ่มลูกค้าเดิม ทั้งโซลาร์,โรงไฟฟ้าขยะ เนื่องจากมีความต้องการสูง ประกอบกับเป็นงานที่มีความเชี่ยวชาญ และมีบุคลากรที่มีความพร้อมกับมีประสบการณ์ทำงานมาอย่างยาวนาน ขณะที่ในธุรกิจในส่วนผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีออเดอร์เข้ามาสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่า ผลการดำเนินงานในปี 2561 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 1,280 ล้านบาท
" ธุรกิจของเราถือว่าฟื้นตัวชัดเจนขึ้นมาก สะท้อนเห็นได้จากตัวเลขในไตรมาส 3 /61 ที่ออกมา กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 138.27 % หลักๆมาจากงานที่เรารับและทยอยส่งมอบ สัญญาณการฟื้นตัวของกำลังซื้อและภาคก่อสร้างด้านสาธารณูปโภคส่งผลให้ปริมาณงานเพิ่มขึ้น พอรต์กว่า 3,000 ล้านบาท ในส่วนธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าฯ ก็ทยอยๆ รับรู้ ส่วนงานใหม่ๆ เราก็มี ทั้งการเข้าไปรับงานเองและร่วมกับพันธมิตรประมูลรับงาน ดังนั้นจึงเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานปี 2561 จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะเป็นรายได้หลักที่สนับสนุน" นายอภิชาต กล่าวในที่สุด