กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--The Okura Prestige Bangkok
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ (The Okura Prestige Bangkok) ห้องอาหาร เอเลเมนท์ (Elements Restaurant) และ ห้องอาหารยามาซาโตะ (Yamazato) ได้รับคัดเลือกให้อยู่ในคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี 2019 ฉบับ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา หรือ MICHELIN Guide Thailand, Michelin Guide 2019 Bangkok Phuket and Phang-Nga
เช้าวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 มิชลิน และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เผยผลการคัดเลือกและจัดอันดับโรงแรม และ ร้านอาหารใน กรุงเทพฯ ของคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี 2019 ฉบับ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา โดยมีสถานประกอบการติดอันดับรวมทั้งสิ้น 33 แห่ง โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในสถานประกอบการที่ได้คัดเลือกและถูกกล่าวถึงในคู่มือแนะนำที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี 2019 ฉบับ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้รับคะแนนด้านความสะดวกสบายในระดับท็อปคลาส จากการประกาสผลในปีที่แล้ว ซึ่งโรงแรม ดิ โอกุระเพรสทีจ กรุงเทพฯ ก็สามารถรักษามาตราฐานการบริการจนได้รับคะแนนความสะดวกสบายในระดับท็อปคลาส ติดต่อกันเป็นปีที่ 2
ห้องอาหาร เอเลเมนท์ ในปีนี้ได้รับดาวมิชลินเพิ่มอีก 1 ดวง ถือเป็นดาวเกียรติยศที่ได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยการมอบดาวตามความหมายของ 'มิชลิน ไกด์' นั้น หมายถึงร้านอาหารคุณภาพสูงที่ควรค่าแก่การหยุดแวะชิม ห้องอาหารยามาซาโตะก็สามารถรักษามาตราฐานการให้บริการอาหารจนได้รับ 'มิชลิน เพลท' ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เช่นกัน ซึ่งการได้รับ 'มิชลิน เพลท' ตามความหมายของ 'มิชลิน ไกด์' นั้น หมายถึง ร้านอาหารคุณภาพดีที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ปรุงอย่างพิถีพิถัน
มร. เอ็ดเวิร์ด อี สนุ๊ก (Edward E. Snoeks) ผู้จัดการทั่วไปส่วนภูมิภาคประจำประเทศไทย และผู้จัดการทั่วไป (General Manager) โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ กล่าวว่า "ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ และห้องอาหารของโรงแรมได้ถูกกล่าวถึงในคู่มือแนะนำที่พักระดับโลก 'มิชลิน ไกด์' ประเทศไทย ประจำปี 2019 ฉบับ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต และพังงา อีกครั้งในปีนี้ เราให้ความสำคัญและใส่ใจในคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างภายในโรงแรม รวมไปถึงการบริการที่เป็นมิตร เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการทุกคน การได้รับการกล่าวถึงในคู่มือแนะนำที่พักระดับโลก รวมไปถึงการติดอันดับ 1 ใน 10 โรงแรมชั้นนำในกรุงเทพฯ ในเวปไซด์ทริปแอดไวเซอร์ (www.tripadvisor.com) ตั้งแต่ปี 2557 ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 5 ปีติดต่อกัน และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ที่โรงแรมได้รับนับแต่เปิดให้บริการในปี 2555 ล้วนเป็นสิ่งยืนยันถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของพนักงานทุก ๆ ท่านที่ร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อรักษามาตราฐานและพัฒนาการบริการเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ"
โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใจกลางย่านธุรกิจบนถนนวิทยุ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2555 ห้องพักทั้ง 240 ห้องมีกระจกหน้าต่างพาโนราม่าแบบทริปเปิลเกลซอีโค๊ทเพื่อป้องกันทั้งความร้อนและเสียงแต่ยังคงไว้ซึ่งทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลอย่างกรุงเทพมหานคร ภายในห้องประกอบไปด้วยความสะดวกสบายและความหรูหราที่รังสรรค์ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดต่าง ๆ ซึ่งออกแบบมาเพื่อความประทับใจของแขกที่เป็นนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นแผงควบคุมดิจิตอลข้างเตียง โทรทัศน์แบบอินเทอร์เน็ตทีวีจอแบนหรือการบรรจงเลือกใช้ผ้าปูที่นอนที่ผลิตจากฝ้ายอียิปต์และของใช้ในห้องอาบน้ำต่าง ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับห้องพักประเภทคลับนั้นจะอยู่บนชั้นสูงของโรงแรมและเพียบพร้อมด้วยความเป็นส่วนตัวอีกขั้นหนึ่ง พร้อมบริการพิเศษที่ให้บริการเฉพาะแขกห้องพักประเภทคลับที่โอกุระคลับเล้านจ์บนชั้น 33 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มีห้องจัดเลี้ยงที่มีความเหมาะสมสำหรับการจัดงานประชุมขนาดเล็กและใหญ่ตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 และ ชั้น 3 ของโรงแรม ส่วนสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่ยื่นออกจากตัวอาคารนั้นตั้งอยู่บนชั้น 25 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถชมวิวเมืองกรุงเทพฯ ได้ขณะที่เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำในสระน้ำเกลือ หรือจะรับบริการนวดผ่อนคลายความเหนื่อยล้าที่ ดิ โอกุระ สปา
ห้องอาหารเอเลเมนท์ เป็นห้องอาหารของคนเมืองรุ่นใหม่ ตั้งอยู่บนชั้น 25 ของโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มีระเบียงยื่นออกนอกห้องอาหารเพื่อชมทิวทัศน์อันงดงามของกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน ให้บริการอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นรสชาติเยี่ยมโดยพ่อครัวมากประสบการณ์ ให้ความรู้สึกเป็นกันเองจากครัวที่เปิดโล่งจึงสามารถมองเห็นการทำอาหารของพ่อครัวได้ เมนูทั้งหมดที่ห้องอาหาร เอเลเมนท์ ได้รับการรังสรรค์โดย ทีมพ่อครัวที่มีความเชี่ยวชาญในการปรุงอาหารฝรั่งเศส อาหารจานเด่นถูกปรุงโดยใช้เทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสแบบต้นตำหรับ ประกอบกับการคัดสรรวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วโลก และเลือกใช้ส่วนประกอบที่ใช้ปรุงอาหารญี่ปุ่น อาทิ มิโซะ ส้มยูซุ ชาเขียว สาหร่ายญี่ปุ่น ฯลฯ มาเป็นส่วนหนึ่งของอาหารจนได้เมนูอาหารฝรั่งเศสที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่น แสนอร่อย น่ารับประทาน เปิดให้บริการวัน อังคาร ถึงวันเสาร์ เฉพาะมื้อค่ำ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 22.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง ติดต่อ 02 687 9000 หรือ elements@okurabangkok.com หรือที่เว็บไซต์ www.okurabangkok.com
ห้องอาหารญี่ปุ่นยามาซาโตะ ตั้งอยู่บนชั้นที่ 24 โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยคุณภาพที่สม่ำเสมอ ทั้งในเรื่องของวัตถุดิบ รสชาติ และการตระเตรียมอาหารอย่างพิถีพิถันโดยหัวหน้าพ่อครัวชาวญี่ปุ่น เชฟ ชิเงรุ ฮางิวาระ ให้บริการอาหารญี่ปุ่นรสชาติต้นตำรับหลากหลายรายการ รวมไปถึงอาหารชุดพิเศษสำหรับมื้อค่ำ "ไคเซกิ เรียวริ" (Kaiseki RyÕri) ซึ่งเป็นการบริการอาหารญี่ปุ่นในพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 9 และต่อมาได้พัฒนาจนเป็นหนึ่งในรูปแบบการรับประทานอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก ไคเซกิ เรียวริ ถือเป็นตำนานอาหารญี่ปุ่นชั้นสูงอายุเก่าแก่หลายศตวรรษที่แต่เดิมจะจัดให้มีขึ้นตามงานเลี้ยงสำคัญ ๆ เท่านั้น ไคเซกิประกอบด้วยอาหารที่เสิร์ฟต่อเนื่องกันหลายรายการ โดยทุก ๆ จานได้รับการปรุงและจัดวางด้วยความบรรจง และคำนึงถึงทุกสีสันและรสสัมผัส นอกจากนั้นยังมีการบริการอาหารญี่ปุ่นแบบเทปันยากิ (Teppanyaki) ซูชิ (Sushi) ซาชิมิ (Sashimi) และอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบตามฤดูกาลในประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอาหารทะเล อีกทั้งยังมีเมนูพิเศษประจำเทศกาลสำคัญในประเทศญี่ปุ่น ให้บริการทั้งในรูปแบบเมนูอาหารชุด และอาหารจานเดี่ยว ให้บริการอาหารทั้งมื้อเช้า มื้อกลางวัน และ มื้อค่ำ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองโต๊ะกรุณาติดต่อ 02 687 9000 อีเมล์ yamazato@okurabangkok.com หรือที่เว็บไซต์ www.okurabangkok.com