กรุงเทพฯ--16 พ.ย.--ททท.
"อุ๋ย - นที เอกวิจิตร" หรือ อุ๋ย บุดด้าเบลส เจ้าของฉายา "แร็ปเปอร์สายธรรมะ" ถึงกับ WOW โดนใจไปกับบรรยากาศความสวยงามตามธรรมชาติที่เงียบสงบของ จ.อ่างทอง-จ.สิงห์บุรี กันเลยทีเดียว เพราะนอกจากจะเข้าทางธรรมะพระศาสนาแล้ว ยังเป็นเมืองรอง ที่ขอย้ำว่า ต้องลอง ต้องรัก ต้องใส่ใจ โครงการที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดขึ้นเพื่อนำเสนอการท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Tourism) ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามแอ่งท่องเที่ยวในจังหวัดเมืองรอง ซึ่งเป็นการส่งเสริมและช่วยสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศในแหล่งท่องเที่ยวให้ดำรงอยู่ถึงอนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และเป็นการสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งด้านการท่องเที่ยวในเมืองรอง 55 จังหวัด ที่มีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามและน่าสนใจไม่น้อยกว่าเมืองหลัก เพื่อเป็นการยกระดับฐานรากเรื่องของการท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง กระตุ้นเศรษฐกิจเมืองรองทั่วประเทศ กระจายรายได้จากเมืองหลักสู่เมืองรองและก่อให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนยิ่งขึ้น
โดยในทริปนี้อุ๋ย ได้ค้นพบความสงบที่เปิดมุมมองทางความคิดได้มากยิ่งขึ้น จากเส้นทางภาคกลาง ในเมืองรองอย่าง จ.อ่างทอง-จ.สิงห์บุรี ภูมิปัญญาแห่งท้องทุ่งของผู้คนริมฝั่งน้ำบนที่ราบภาคกลาง ที่สืบทอดมาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา มาทำความเข้าใจระบบแม่น้ำในที่ราบ และความอุดมสมบูรณ์ผ่านลำน้ำน้อย และความหลากหลายสองฝั่งน้ำ รุกขมรดกแห่งแผ่นดิน เมื่อต้นโพธิ์ใหญ่โอบอุโบสถที่วัดสังกระต่าย กราบพระนอนใหญ่แห่งทุ่งโพธิ์ทอง พักโฮมสเตย์บ้านสวนอยู่สุข แล้วเที่ยวย้อนยุคที่บ้านระจัน พักโฮมสเตย์กับชุมชน สนุกกับกิจกรรมเรียนรู้ในท้องถิ่น เลือกเมนูตำรับพื้นบ้าน และของกินตามฤดูกาล กำหนดเส้นทางแบบวงรอบไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังงานย้อนไปย้อนมา อย่าลืมเสื้อผ้าฝ้าย โปร่งเบา หมวกใบโปรด รับมือกับแดดจัด อากาศร้อน กระติกน้ำ กล่องข้าว เพื่อลดใช้ถุงพลาสติก
อุ๋ย กล่าวว่า "เมืองแต่ละเมืองย่อมมีเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ และเช่นกันในเมืองรองอย่าง จ.อ่างทองและจ.สิงห์บุรี ก็มีเสน่ห์ต่างๆ ที่เป็นรองไปจากเมืองใหญ่ สิ่งที่ผมได้รับเป็นสิ่งแรกที่เดินทางมาถึงที่นี้นั้นคือความสงบ เมื่อเราได้เห็นความสงบมันนำให้เรามองเหตุสิ่งต่างๆ ได้ชัดยิ่งขึ้น ทำให้ได้รู้ว่าจริงชีวิตคนนั้นง่ายแสนง่าย ปลูกเอง กินเอง และรอยยิ้มจากเพื่อนบ้าน ทั้งหมดนี้เปรียบเหมือนการฟอกลมหายใจให้บริสุทธิ์ เงินทองคือมายา ข้าวปลาคือของจริง ชีวิตคนที่พร้อมจริงๆ คือชีวิตคนที่มีอยู่มีกินและมีปัญญา หากินได้ด้วยตัวเองทั้งยังไม่เดือดร้อนและสร้างมลพิษแก่ผู้คนและธรรมชาติ เรียกได้ว่าที่นี่อาจจะเป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่ง ความสุขเล็กๆที่ไม่เป็นรองใครในเมืองรอง ที่ต้องลอง และคุณจะรัก" โดยโครงการเมืองรอง ต้องลอง ต้องรัก ต้องใส่ใจ เป็นการท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมกับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ Low Carbon ณ 9 เส้นทางท่องเที่ยวเมืองรองที่จะทำให้คุณหลงรักและเที่ยวได้อย่างสุขใจโดยไม่ทิ้งภัยให้กับธรรมชาติ สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดตามข่าวสาร และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการได้ที่เว็บไซต์ https://tourismthailand.org/localtravel หรือติดต่อที่ศูนย์บริการข่าวสารท่องเที่ยว ททท. ได้ที่เบอร์ 1672