กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--มหาวิทยาลัยขอนแก่น
กว่า 3 ปีแล้ว ที่พุทธศาสนิกชนชาวไทยได้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ หลังพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ละสังขารลงเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ท่ามกลางความโศกเศร้าของศิษยานุศิษย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ดำเนินตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ โดยมอบสังขารให้แก่ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อนำไปศึกษาค้นคว้า โดยนักศึกษาแพทย์ต่างได้ศึกษาเรียนรู้เป็นคุณอันเอนกอนันต์เรื่อยมา กระทั่งสิ้นสุดกระบวนการจัดการเรียนการสอน เมื่อเดือนมิถุนายน 2561 จวบจนพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ของพระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ และ ครูใหญ่ทุกร่าง ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ คณะทำงานฯ ได้กำหนดให้เป็นวันที่ 22-28 มกราคม 2562 ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และในวันที่ 29 มกราคม 2562 จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) ณ พุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น
เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ โดยได้มีการจัดพิธีเบิกฟ้า ขอขมาแถนไท้ เพื่อสร้างเมรุลอยนกหัสดีลิงค์หลวงพ่อคูณ เมื่อเดือนเมษายน 2561ที่ผ่านมา นกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุลอยตามประเพณีโบราณที่จัดขึ้นเฉพาะการฌาปณกิจศพเจ้านายชั้นสูง หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่ ที่สืบทอดมาจากตำนาน "นกหัสดีลิงค์" หรือ นกสักกะไดลิงค์ ที่มีส่วนหัวเป็นช้าง ตัวเป็นนกขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล ในตำนานของนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคต ต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง มีนกหัสดีลิงค์ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารบินมาจากป่าหิมพานต์ จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพไป เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้คนดีเข้าต่อสู้เพื่อเอาพระศพคืนมา นางสีดาจึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ โดยใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตายตกลงมาพร้อมพระศพ พระมหาเทวีจึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน หลังจากนั้นมาจึงได้ถือเอาประเพณีทำนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุของชั้นเจ้านาย ตามความเชื่อที่ว่า นกหัสดีลิงค์ สามารถนำดวงวิญญาณของผู้ตายไปสู่สวรรค์ได้
รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า เมรุลอยนกหัสดีลิงค์ ได้รับแรงบันดาลใจในการสร้างเมรุลอยจาก อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุน ซึ่งเมรุลอยของหลวงพ่อคูณ ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับประเพณีโบราณ เป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาว บนฐานแปดเหลี่ยม กว้าง 16 เมตร สูง 22.6 เมตร ส่วนฐานของนกหัสดีลิงค์จะประกอบไปด้วยนาคที่มีความยาว 5 เมตร 12 ตน และรายล้อมด้วยสัตว์หิมพานต์ 32 ตน จำลองบรรยากาศคล้ายเขาพระสุเมรุ ถอดแนวความคิดมาจากอัตลักษณ์และวัฒนธรรมอีสาน งานศิลปะชิ้นนี้ถูกสร้างเป็นสีขาวทั้งหมด ภายใต้แนวคิด "เรียบง่าย สมเกียรติ สง่างาม" เพื่อสื่อถึงสะอาด ความบริสุทธิ์ ในการที่จะส่งหลวงพ่อคูณไปสู่สวรรค์ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อที่ให้จัดงานอย่างเรียบง่ายที่สุด ภายใต้การทำงานอย่างร่วมแรงร่วมใจจากช่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะกรรมการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ จึงเห็นควรให้ศิษยานุศิษย์ได้มีส่วนร่วมในการสร้างนกหัสดีลิงค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระสงฆ์ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาและบุญบารมี เสริมสิริมงคลแก่ชีวิต ด้วยการร่วมปิดทองคำเปลวยอดบุษบก และช่วยกันประดับตกแต่งขนนกหัสดีลิงค์ โดยคณะกรรมการได้จัดเตรียมอุปกรณ์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ศิษยานุศิษย์อย่างเพียงพอ ในงานสีฐานเฟสติวัล "บุญสมมาบูชาน้ำ" ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2661 ณ ริมบึงสีฐานฝั่งตะวันตก มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อเทศกาลสีฐานเฟสติวัลจบลง ทีมช่างจะทำการสร้างนกหัสดีลิงค์จนเสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะเคลื่อนย้ายไปตั้งไว้ ณ พุทธมณฑลอีสาน จังหวัดขอนแก่น สถานที่ใช้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) โดยกำหนดในวันที่ 29 มกราคม 2562 และหลังจากเสร็จพิธีฯ สถานที่ตรงนี้จึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ได้วางแผนการก่อสร้างอนุสรณ์สถานครอบไว้โดยรูปแบบทางสถาปัตยกรรม จะใช้สีขาวเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ มีรูปแบบประยุกต์ เรียบง่าย สมถะ สันโดษ บรรยากาศภายในใช้แสงเป็นสัญลักษณ์แห่งนิพพาน เพื่อเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงคุณงามความดีของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ผู้เคยที่สร้างคุณเอกอนันต์ไว้ให้กับประเทศชาติเรื่อยมา
บทความ : จิราพร ประทุมชัย