กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--โอแฟงห์
"แม่ครัวหัวป่า" มีต้นกำเนิดมาจากฝีมือการปรุงอาหารของชาวบ้านตำบลหัวป่า อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อคราวรับเสด็จประพาสต้นล้นเกล้ารัชกาลที่ 5ณ เมืองพรหมบุรีในสมัยนั้น พระองค์ทรงโปรดเครื่องเสวยทั้งสำรับคาวหวานที่ชาวหัวป่าได้ทำถวายเป็นอย่างมาก จึงพระราชทานชื่อคณะแม่ครัวว่า "แม่ครัวหัวป่า" จากนั้นไม่ว่าจะเสด็จไปทีไหนก็มักจะทรงเอ่ยถึงแม่ครัวหัวป่าอยู่เนืองๆ จนกระทั่งมีพระราชดำริให้แม่ครัวหัวป่าเข้ามาทำเครื่องเสวยในวังหลวงในเวลาต่อมา ทำให้มีคำกล่าวว่า บ้านหัวป่า เป็นแหล่งชุมชนของผู้มีฝีมือในการทำอาหารคาวหวานตำรับแม่ครัวหัวป่า ได้สืบทอดกันแบบรุ่นต่อรุ่นเป็นสูตรมรดกของแต่ละบ้านจนสามารถจำแนกได้ว่า อาหารชนิดนั้นๆ มีใครเป็นผู้ที่จัดว่ามีรสมือเป็นเลิศที่สุด
คุณดิเรก ศลสกล ผู้ใหญ่บ้านบ้านจวนเก่า หมู่ที่1 ต.หัวป่า อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี กล่าวว่า "...ในครั้งที่สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นที่เมืองพรหมบุรี ท่านโปรดแกงบวนเป็นอย่างมาก เนื่องจากรสชาติที่อร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แกงบวนจึงเป็นอาหารที่ไม่ขาดไม่ได้ในสำรับอาหารตำรับแม่ครัวหัวป่า..."
ในทุกๆ วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปีตำบลหัวป่าจะจัดงานตามรอยเสด็จประพาสต้น เนื่องในวันแม่ครัวหัวป่า ซึ่งภายในงานจะมีการวางพานพุ่มถวายการสักการะในหลวงรัชกาลที่ 5 และจัดทำอาหารจากเมนูที่ขึ้นชื่อของแม่ครัวหัวป่า เพื่อเลี้ยงต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ อาทิ แกงบวน แกงบอน ต้มปลาร้าหัวตาล แกงขี้เหล็ก ปลาร้าปิ้ง ตลอดจนอาหารหวานนานาชนิด
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้มาท่องเที่ยงที่หัวป่า นอกจากจะได้ลิ้มรสชาติอาหารจากแม่ครัวหัวป่ายังสามารถแวะชมพิพิธภัณฑ์เมืองพรหมบุรี ฉลอง 100 ปี เสด็จพรหมบุรี โดยทางด้านหน้าจะเป็นอนุสาวรีย์พระพรหมประสาทศิลป์ อดีตเจ้าเมืองพรหมบุรี ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์จะมีห้องจัดแสดงที่น่าสนใจมากมายให้รับช
ตำบลหัวป่า ประกอบด้วย 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านจวนเก่า บ้านชลอน บ้านหัวงิ้ว และบ้านหัวป่า จัดเป็นชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จ.สิงห์บุรี สามารถเดินทางจากตัวเมืองไปตามถนนหมายเลข 311 สายอยุธยา- อ่างทอง ระยะทางประมาณ 13 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที