กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) เปิดตัวข้อตกลงร่วมภายใต้โครงการ "ดิจิทัล อาเซียน" ดึงกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกและภูมิภาค พัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้แรงงานในอาเซียน 20 ล้านคน ภายในปี 2563 มุ่งเน้นกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อเศรษฐกิจอาเซียน
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวในการแถลงข่าวร่วมกับสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) ในการเปิดตัวร่วมกับกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อนำร่องในการพัฒนาทักษะดิจิทัลให้กับแรงงานในอาเซียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมเอสเอ็มอี เป้าหมาย 20 ล้านคน ภายในปี 2563 ว่า ข้อตกลงนี้เป็นการตั้งโจทย์โดยสภาเศรษฐกิจโลก โดยเอกชน และจะนำไปสู่การส่งเสริมการค้าการลงทุน
โดยข้อตกลงนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะผลักดันให้เกิดความร่วมมือในภูมิภาคจากภาคธุรกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประชาชนผ่านการฝึกฝน การเรียนรู้ทักษะ และเสริมสร้างความเชี่ยวชาญ มีกลุ่มบริษัทนำร่อง ได้แก่ ซิสโก้ กูเกิล ไมโครซอฟท์ ลาซาด้า Grab Tokopedia และ Sea Group ซึ่งเป็นบริษัททั้งระดับโลกและระดับอาเซียนการสนับสนุนยังมีทั้งให้ทุนการศึกษา เปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยในอาเซียนได้เข้าฝึกงานกับบริษัท การอบรมเจ้าหน้าที่ และการร่วมสร้างหลักสูตรเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์ในสถาบันการศึกษา คาดว่าจะสร้างให้เกิดการจ้างแรงงานที่มีทักษะด้านดิจิทัล 200,000 คนในอาเซียน ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า
ดร.พิเชฐฯ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ดิจิทัล อาเซียน" ซึ่งริเริ่มโดยภาคเอกชนผ่านทางสภาเศรษฐกิจโลก เพื่อสร้างความมีส่วนร่วมในเอเชีย 4 ด้าน ได้แก่ 1. การพัฒนาบุคลากร โดยดึงเอาบริษัทใหญ่มาร่วมพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับเอสเอ็มอี 2. ไซเบอร์ ซิเคียวริตี้ ซึ่งจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ระหว่างกัน 3 .Data Governance หรือธรรมาภิบาลของข้อมูล ทั้งการส่งเสริม การคุ้มครอง ซึ่งครอบคลุมไปถึงข้อมูลในส่วนที่ข้ามประเทศ (Cross Border) และ 4. e-Payment ระบบชำระเงินและการ แลกเปลี่ยน ซึ่งประเทศไทยมีโครงการที่ทำแล้วและน่าจะเป็นประโยชน์ได้ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ได้แก่ พร้อมเพย์ และการชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีข้อตกลงอีกด้าน คือ Digital Access หรือการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยในส่วนของประเทศไทย ก็มีโครงการเน็ตประชารัฐ ที่จะนำไปสร้างการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ได้
"ในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาโครงการดิจิทัล อาเซียน บทบาทของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ก็มีส่วนร่วมในการให้คำแนะนำหัวข้อน่าสนใจกับโครงการนี้ และคุยกับรัฐมนตรีอาเซียนบางประเทศ ภายใต้ความร่วมมือนี้ 4-5 ด้าน"
นอกจากนี้ ในปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียน ก็มีการเตรียมคุยประเด็นของดิจิทัล อาเซียน ทั้งในระดับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (ASEAN TELMIN) และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศ (TELSOM)
ด้านนายจัสติน วู้ด หัวหน้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และสมาชิกคณะกรรมการบริหารของสภาเศรษฐกิจโลก กล่าวว่า ปัจจุบันได้มีการพัฒนาทักษะแรงงานด้านดิจิทัลในภูมิภาคนี้ไปแล้วประมาณ 8.5 ล้านคน และมีจำนวนมากที่อยู่ในประเทศไทย
เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับกลุ่มเอสเอ็มอี เพราะเป็นตัวผลักดันหลักต่อความสำเร็จของการเติบโตทางเศรษฐกิจอาเซียน แรงงานส่วนใหญ่ทุกประเทศทำงานในบริษัทขนาดกลางและเล็ก และถ้ามองเจาะลงมาที่ประเทศไทย ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลจะเห็นธุรกิจเล็กๆ หรือครอบครัวในชนบทห่างไกล สามารถได้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต และแพลตฟอร์มด้านอี-คอมเมิร์ซ ช่วยให้ขายสินค้าได้ไกลถึงต่างประเทศ
"การสร้างทักษะพื้นฐานให้กับเอสเอ็มอีอาเซียนรวมทั้งไทย จะเน้นเรื่องความรู้ความเข้าใจในการใช้เครื่องมือดิจิทัล การใช้อี-คอมเมิร์ซช่วยค้าขาย และอี-เปย์เม้นท์ เป็นต้น ส่วนการพัฒนาทักษะระดับสูงขึ้น เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ หรือเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จะมุ่งที่กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา"