มกอช. เจรจา SPS สำเร็จร รอ RCEP ประกาศบังคับใช้

ข่าวทั่วไป Tuesday November 20, 2018 10:37 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ มกอช. บรรลุเป้าเวทีโลก เจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) สำเร็จ รอ RCEP ประกาศบังคับใช้ ยกระดับมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารไทยสู่ตลาดโลก นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เปิดเผยว่า มกอช. เป็นหน่วยงานหลักของไทยในการเจรจาด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (Sanitary and Phytosanitary Measures: SPS) ซึ่งได้พยายามผลักดันและได้เข้าร่วมการเจรจา เพื่อจัดทำข้อตกลงด้าน SPS ภายใต้การเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ RCEP มาโดยตลอดระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2556 จนกระทั้งการประชุมจัดทำข้อตกลงด้าน SPS ภายใต้ RCEP ครั้งที่ 24 เมื่อเดือน ตุลาคม 2561 ล่าสุด ได้บรรลุข้อตกลงสามารถหาข้อสรุปและบรรลุผลการเจรจาร่วมกันได้แล้ว เลขาธิการกล่าวว่า ความตกลง RCEP ถือเป็นกรอบความตกลงทางเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 16 ประเทศ ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ และประเทศคู่เจรจา 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ รวมจำนวนประชากรมากกว่า 3,400 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของประชากรโลก มีมูลค่าการค้ารวมกันสูงถึง 10.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 340 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 29 ของการค้าโลก ซึ่งทุกประเทศคาดหวังว่ากรอบ RCEP จะทำให้ประเทศสมาชิกได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกันมากที่สุด ครอบคลุมทั้งการขยายตลาดการค้าสินค้า บริการ และส่งเสริมการลงทุน รวมทั้งลดอุปสรรคทางการค้าให้มากกว่าความตกลงอื่นที่มีอยู่เดิม ข้อตกลงด้าน SPS ฉบับนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวก และลดอุปสรรคทางการค้าสินค้าเกษตรและอาหารให้ มีกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการดำเนินการด้าน SPS ระหว่างประเทศสมาชิก กำหนดกรอบระยะเวลาการในดำเนินการที่เหมาะสม สำหรับการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกด้านมาตรการด้าน SPS ส่งเสริมความร่วมมือด้าน SPS อันจะช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยและประเทศสมาชิก RCEP เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก "หากความตกลง RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว จะทำให้อาเซียนเป็นศูนย์กลางของตลาดการค้าสินค้าเกษตร และเป็นโอกาสของไทยที่จะสามารถส่งออกสินค้าเกษตรไปยังประเทศสมาชิก RCEP ได้มากขึ้น รวมทั้งช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของสินค้าเกษตรและอาหารของไทยเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าน้ำตาล อาหารแปรรูป มันสำปะหลัง กุ้ง และข้าว ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหารส่งออกที่สำคัญของไทย อันจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ตลอดจนผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยได้มากขึ้น" เลขาธิการกล่าว...

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ