กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--IR network
SISB เคาะราคาขายไอพีโอ 5.20 บาทต่อหุ้น พร้อมเปิดขายระหว่าง 22-23 และ 26 พ.ย. 2561 กำหนดฤกษ์ดีเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ วันที่ 29 พ.ย.นี้ มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับคึกคัก อนาคตมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องทุกปี เพราะมีศักยภาพรับจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นได้กว่า 4,000 คน จากปัจจุบันมี 2,334 คน จากการลงทุนทั้งสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักเรียนอย่างครบครัน ผู้บริหารหวังอนาคตยกระดับคุณภาพการศึกษาควบคู่การเสริมศักยภาพให้นักเรียน ด้วยความโดดเด่นด้านหลักสูตรการศึกษาของประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นระบบการศึกษาชั้นนำของโลก
นาย สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัทเอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB เปิดเผยว่าได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 260 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท ที่ระดับราคา 5.20 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 22-23 และ 26 พ.ย. 2561 และคาดว่าจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 29 พ.ย. นี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "SISB"
"การกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอที่ 5.20 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่มีความเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และศักยภาพในการเติบโต โดยที่ราคาไอพีโอนี้มียอดนักลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรถึงกว่า 13 เท่า เพราะบริษัทฯ มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ และมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี ทำให้มีผลการดำเนินงานที่มั่นคง และมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติในไทยได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ปกครอง"
นอกจากนี้ SISB ยังมีความโดดเด่นในหลายประเด็นด้วยกัน คือ เปิดดำเนินธุรกิจด้านการศึกษานานกว่า 17 ปี มีการเรียนการสอนที่มีคุณภาพพร้อมสถานศึกษาที่เป็นมาตรฐานสากล ใช้หลักสูตรการศึกษาจากสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นระบบการศึกษาชั้นนำของโลก และที่ผ่านมาโรงเรียนในกลุ่ม SISB ได้ดำเนินการลงทุนด้านต่างๆ อย่างครบถ้วน ทั้งด้านการศึกษา สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แบบเวิลด์คลาส ไม่ว่าจะเป็น Sport Complex , Auditorium, หอพักนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้บริการได้อย่างเต็มที่ ปัจจุบัน SISB มีโรงเรียนนานาชาติที่บริษัทฯ เป็นผู้รับใบอนุญาตในการจัดตั้งโรงเรียนโดยตรงถึง 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพฯ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เอกมัย และอีก 1 โรงเรียนคือโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ที่บริษัทร่วมค้าของบริษัทฯ เป็นผู้รับใบอนุญาต รวมมีโรงเรียนนานาชาติภายในกลุ่มบริษัทฯ ทั้งหมด 5 โรงเรียน ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนมากถึง 2,334 คน จากที่เริ่มต้นมีเพียง 35 คน และมีศักยภาพที่จะรับนักเรียนเพิ่มได้มากถึง 4,175 คน
การเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ บริษัทฯได้แต่งตั้งบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย โดยมีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย 7 แห่ง ประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 บริษัทมีรายได้รวม 690.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 25.92% ขณะที่มีกำไรสุทธิ 71.54 ล้านบาท และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 38.79% ขณะที่มี EBITDA เติบโตสม่ำเสมอ โดยล่าสุดอยู่ที่ระดับ 187.69 ล้านบาท
นาย ยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB กล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการระดมทุน เพื่อนำไปพัฒนาโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ในกลุ่มให้มีคุณภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาศักยภาพของนักเรียนให้เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย ขณะเดียวกันจะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินซึ่งจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยจ่ายให้ลดลงจากปัจจุบันที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายประมาณ 30 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการเติบโตได้ต่อเนื่อง และภายหลังจากการระดมทุนครั้งนี้สัดส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุนจะลดลง ต่ำกว่า 0.5 เท่า
"การระดมทุนครั้งนี้ จะทำให้บริษัทฯเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการพัฒนาเพื่อยกระดับการเป็นผู้ให้บริการการศึกษาที่มีมาตรฐานระดับสากล เพิ่มศักยภาพของนักเรียนให้ทัดเทียมระดับอินเตอร์ สำหรับเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ SISB เพื่อมุ่งสู่การเป็นโรงเรียนนานาชาติชั้นนำในประเทศไทย และในภูมิภาค โดยมีแผนเพิ่มจำนวนนักเรียนทั้งหมดภายในกลุ่มให้มากกว่า 4,000 คน ภายใน 3-5 ปี จากปัจจุบันที่มีนักเรียนประมาณ 2,334 คน