กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--IR PLUS
- PLAT เผยผลงาน 9 เดือนปี61 รายได้ 1,560 ล้านบาท โชว์กำไร 588 ล้านบาท
- เปิดโครงการเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก 14 กุมภาพันธ์ ปี 62 มูลค่าก่อสร้าง 4,400 ล้านบาทพร้อมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์มูลค่ารวม 140 ล้านบาท
- เช่าที่ดินใจกลางเพชรบุรี จำนวน 2 ไร่ 3 งาน 56.6 ตารางวา ต่อยอดโครงการ เดอะ นีออน ไนท์ บาซาร์
นายสมชาย วรุณพันธุลักษณ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PLAT ผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาศูนย์การค้าส่งและค้าปลีกเพื่อ การพาณิชย์ และธุรกิจโรงแรม เปิดเผยว่า "ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2561 มีรายได้และกำไรสุทธิ ที่ขยายตัวตามแผน สะท้อนการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ โดยมีรายได้รวม 1,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนจำนวน 1,515 ล้านบาท ทั้งนี้ มาจากธุรกิจหลักคือ ธุรกิจให้เช่าและบริการและธุรกิจโรงแรม"
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวด 9 เดือนปี 2561 ( สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561) โดยเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน มีรายละเอียด ดังนี้
- รายได้รวม 1,560 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45 ล้านบาท หรือ 3%
- กำไรขั้นต้นจากธุรกิจหลักรวม 971 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97 ล้านบาท หรือ 11%
- กำไรสุทธิรวม 588 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19 ล้านบาท หรือ 3%
ส่วนปัจจัยการเติบโตที่เพิ่มขึ้นในงวด 9 เดือนปี2561ประกอบด้วย
- รายได้จากการให้เช่าและบริการ เพิ่มขึ้นจำนวน 70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการปรับเพิ่มขึ้นอัตราค่าเช่าพื้นที่ของโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ นอกจากนี้ บริษัทฯยังสามารถเพิ่มรายได้จากการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ เดอะ แพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ให้สูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการ จัดกิจกรรม(Event)และมีผู้สนับสนุนทางการตลาด (Marketing Sponsorship) สำหรับการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์การค้า ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ในส่วนนี้ เพิ่มขึ้นจำนวน 26 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของ ปีก่อน รวมทั้ง บริษัทฯได้เปิดดำเนินการทุกวันสำหรับโครงการเดอะ นีออน ไนท์ บาซาร์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 จากเดิมที่เปิดดำเนินงานเพียง 5 วัน และมีการปรับเพิ่มราคาค่าเช่าพื้นที่ ภายหลังจากบริษัทฯ ได้ปรับปรุงโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จึงส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มมากขึ้น
- รายได้จากการประกอบกิจการโรงแรม เพิ่มขึ้นจำนวน 30 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ มีอัตราการเข้าพักอาศัยเฉลี่ยและอัตราค่าเช่าห้องพักรายวันเพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯ มีอัตราการเข้าพักอาศัยเฉลี่ยอยู่ที่ 91% ( ปี 2560 อยู่ที่ 87% ) เนื่องจากบริษัทฯ มีลูกค้าที่จองผ่านระบบการจองห้องพักออนไลน์เพิ่มขึ้นและอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยสำหรับไตรมาส 3 ปี 2561 มีการปรับตัวสูงขึ้น 7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีความต้องการจองห้องพักจำนวนมาก จึงส่งผลให้บริษัทฯสามารถปรับราคาค่าห้องพักได้สูงขึ้น ประกอบกับในช่วงเดือนตุลาคมของปี 2560 บริษัทฯ มีห้องพักเพิ่มขึ้นจากเดิมจำนวน 5 ห้อง และมีรายได้จากการขายอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น จากการจัดเลี้ยงของกลุ่มสัมมนาและงานแต่งงาน
ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2561 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติเกี่ยวกับการเช่าที่ดินเนื้อที่ 2 ไร่ 3 งาน 56.6 ตารางวา ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเพชรบุรี ระหว่างซอยเพชรบุรี 23-31 โดยบริษัทฯมีวัตถุประสงค์ที่จะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาโครงการเป็นแหล่งช้อปปิ้งกลางคืน ต่อยอดโครงการ เดอะ นีออน ไนท์ บาซาร์ โดยบริษัทฯ จะได้รับประโยชน์จากรายได้ค่าเช่าและค่าบริการที่เพิ่มขึ้นจากโครงการดังกล่าวนอกเหนือจากโครงการของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนการเช่าที่ดินเป็นงวดรายปีและชำระค่าเช่าล่วงหน้ารายปีรวมเป็นจำนวนเงินตลอดระยะเวลาการเช่า 3 ปีทั้งสิ้นไม่เกิน 30 ล้านบาท
ด้านความคืบหน้าโครงการต่างๆ นายสมชาย กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า "บริษัทฯเตรียมเปิดตัว ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูส ที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 21 ไร่ มูลค่าโครงการรวม 9,000 ล้านบาท ประกอบด้วย ศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก /โรงแรม 2 อาคาร ที่บริหาร โดย แมริออท อินเตอร์เนชั่น แนล ได้แก่โรงแรม ม็อกซี่ โฮเทล แบงคอก ราชประสงค์ /โรงแรม แฟร์ฟิลด์ บาย แมริออท แบงคอก ราชประสงค์ / และอาคารสำนักงาน เดอะ แพลทินัม ทาวเวอร์"
สำหรับศูนย์การค้า เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เตรียมเปิดให้บริการวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 นั้น มีมูลค่าก่อสร้างรวม 4,400 ล้านบาทพร้อมทำการตลาดและประชาสัมพันธ์มูลค่ารวม 140 ล้านบาท อาทิ การจัดแคมเปญกิจกรรมส่งเสริมการขาย การซื้อสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างให้ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก เป็นสุดยอดมาร์เก็ต แห่งอาหาร แฟชั่น และที่เที่ยวในฝัน ของคนกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยว จากทั่วโลก โดยตั้งกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวไทย 50% ต่างชาติ 50 % และตั้งเป้าทราฟฟิก(Traffic) ภายในศูนย์การค้าฯ ประมาณ 3 ล้านคน/เดือน