กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--โซกู๊ด คอนซัลติ้ง
เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพเยาวชนไทยในด้านดนตรี 'MUSIC POWER' เปิดเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรี พร้อมยกระดับทักษะ และศักยภาพด้านดนตรีของเยาวชนไทยสู่ระดับสากล #WEARETHAIPOWER
กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ภายใต้โครงการ คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ร่วมกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562 หรือ Thailand International Wind Symphony Competition 2019 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2หลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีที่ผ่านมา ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ โดยมีเยาวชน และประชาชนทั่วไปทั้งไทย และต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดเป็นจำนวนมาก อาทิ ฮ่องกง สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ โดยมี นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล อาจารย์ ศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบันวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะกรรมการจัดการประกวด และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วม ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ รางน้ำ
นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เปิดเผยว่า คิง เพาเวอร์ มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคม ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย ผ่านโครงการต่างๆ มากมาย เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีมีประโยชน์ให้กับสังคมไทยในทุกระดับ โดยเฉพาะ 'เยาวชน' ปีนี้เราได้ต่อยอดโครงการด้านดนตรี หรือ MUSIC POWER ผ่านการประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ประจำปี 2562เป็นปีที่ 2 โดยได้รับความร่วมมือจาก วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทย ตลอดจนคนไทยได้แสดงความสามารถด้านดนตรีอย่างแท้จริง บนเวทีระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทักษะด้านดนตรีทำให้เยาวชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพและการฝึกฝนทักษะการเล่นดนตรีแบบรวมวงผ่านเวทีประกวด เพื่อเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ
ที่ผ่านมา มีคนไทยทั้งเยาวชนที่เป็นเด็กเล็ก นักเรียนนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถไปแข่งขันในต่างประเทศและคว้ารางวัลกลับมาได้ในหลายรายการ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อม และความสามารถด้านดนตรีของคนไทย ซึ่งตรงกับแนวคิดของกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่ให้ความสำคัญในการสืบสานศิลปะทางดนตรีมาอย่างยาวนาน จึงมุ่งสนับสนุนให้คนไทย และเยาวชนไทยได้มีเวทีระดับโลกในการโชว์ศักยภาพจึงเป็นที่มาในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้นายอภิเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติม
ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้จัดการประกวดในครั้งนี้ ร่วมกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อีกครั้ง ในการจัดการประกวดในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับการยอมรับจากนานาชาติและประชาชนทั่วไป โดยมีโรงเรียนต่างๆ ให้ความสนใจเข้าร่วมประกวดจำนวนมาก ร่วมถึงประเทศต่างๆ อาทิ ฮ่องกง สเปน และสวิตเซอร์แลนด์
การประกวดในครั้งนี้ ได้เปิดการแข่งขันรุ่นไม่จำกัดอายุ เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้เข้าร่วมการแข่งขัน พร้อมยกระดับให้วงดุริยางค์เครื่องเป่าไทยได้เข้าร่วมประกวดในระดับนานาชาติมากขึ้น กระตุ้นบรรยากาศทางด้านศิลปวัฒนธรรมดนตรี ส่งเสริมให้เยาวชนไทยและบุคคลทั่วไปได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมทั้งขยายโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยทางด้านดนตรีในเวทีระดับนานาชาติที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย และคาดว่าในปีนี้จะมีจำนวนวงที่เข้าประกวดเยอะกว่าปีก่อนๆ ทั้งวงจากในประเทศ และจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นเวทีเดียวในแถบอาเซียนที่เปิดรุ่นสำหรับประชาชนทั่วไป ในการแข่งขันแบบเครื่องลม
สิ่งสำคัญที่สุดของการจัดการประกวดในครั้งนี้ เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อเฉลิมพระเกียรติของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยและชาวโลก ซึ่งแต่ละวงจะต้องบรรเลงเพลงบังคับที่ทางผู้จัดการประกวดได้ระบุไว้ เพื่อเป็นมาตราฐานในเรื่องของเทคนิคการบรรเลง และได้แสดงถึงศักยภาพ คุณภาพ ของวงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น รวมทั้งต้องบรรเลง เพลงประจำชาติ และเพลงเลือกอื่นๆ อีกด้วย
ภายในงานจัดมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษจากศิลปินศิษย์เก่า และศิษย์ปัจจุบัน จากวง Brass Ensemble วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการแสดงจากแขกรับเชิญพิเศษ 'แต้ว ณฐพร เตมีรักษ์'