กรุงเทพฯ--22 พ.ย.--เอ็กซ์ตราวาแกนซ่า พีอาร์
สสว. ร่วมกับ HKTDC พร้อมพันธมิตร เปิดโครงการ Thai AIM 2018 ส่งเสริม SMEs ไทยก้าวไกลสู่ตลาดสากล รับสมัครผู้ประกอบการในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน ของขวัญและของที่ระลึก แฟชั่นและเครื่องประดับ รับการคัดเลือกจำนวน 20 ราย ร่วมโชว์ศักยภาพในงาน HKTDC Hong Kong Houseware Fair 2562 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าที่ใหญที่สุดในเอเชีย และงาน HKTDC Hong Kong Gifts & Premium Fair 2562 ซึ่งเป็นงานจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ผู้ที่ผ่านเข้ารอบทั้งหมด 21 ราย จะได้นำผลงานจัดแสดงสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์ และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA โดยสามารถส่งผลงานได้ที่ thaiaim2018@gmail.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มกราคม ศกหน้า
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ร่วมกับ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) พร้อมการสนับสนุนของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ CEA, ห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์, สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือ THTI และสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค จัดเปิดตัว โครงการ Thai Access to International Markets Competition หรือ Thai AIM 2018 พร้อมจัดพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ประกอบการและนักออกแบบรุ่นใหม่ ที่ได้รับรางวัลในโครงการ Thai AIM 2017 โดยโครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมเอสเอ็มอีรวมถึงนักออกแบบรุ่นใหม่ให้มีเวทีและโอกาสในการแสดงผลงาน รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์ไปสู่กลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลกได้โดยตรง
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. กล่าวว่า การจัดงานร่วมกับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง หรือ HKTDC นั้น ทางสสว. ได้ดำเนินกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 5 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการและนักออกแบบรุ่นใหม่ ของไทย ได้นำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดนานาชาติ โดยการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่าน HKTDC Small Order Zone และบนเว็บไซต์ www.hktdc.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์การค้าที่ได้รับรางวัลระดับโลก
"ในปีนี้ฮ่องกงถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีเศรษฐกิจท้าทายที่สุดในโลก สอดรับกับ สสว. ที่พร้อมพัฒนาช่องทางการตลาด และสร้างขีดความสามารถให้แก่ผู้ประกอบการไทย ให้เข้าถึงตลาดในกลุ่มประเทศ อาเซียน+6 แอฟริกา เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และรัสเซีย และล่าสุดทาง สสว. จึงได้ร่วมมือกับ HKTDC ภายใต้โครงการ Thai AIM สร้างโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการไทยในการเข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อจากนานาชาติผ่านช่องทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพอย่างฮ่องกง"
"ผู้ประกอบการที่ส่งผลงานมาร่วมโครงการ จะได้รับโอกาสในการทดสอบกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์ของตนผ่านประสบการณ์จริง ไม่เพียงเฉพาะแค่ในประเทศไทย ที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เท่านั้น แต่รวมไปถึงตลาดระดับโลกอย่างในฮ่องกง ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย" ผอ.สสว. ระบุ
นายสุวรรณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครจะต้องส่งผลงานเป็นคลิปวีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ความยาวไม่เกิน 20 วินาที หรือ รูปภาพผลิตภัณฑ์จำนวน 1 รูป มาที่อีเมล์ thaiaim2018@gmail.com เพื่อให้ทีมงานพิจารณาความเหมาะสมก่อนจะเปิดโหวตผลงานผ่านทาง Facebook ซึ่งผลงานที่ได้รับผลโหวตมากที่สุด 40 อันดับแรกในกลุ่มสินค้าแต่ละประเภทจะได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายต่อไป
"ทางสสว.ไม่ได้ต้องการให้ผู้ประกอบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพดีเพียงเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องความคิดสร้างสรรค์ในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ด้วย เนื่องจากปัจจุบันช่องทางการตลาดออนไลน์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งโครงการนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือจากทาง สสว. ที่จะสร้าง Start-ups จากผู้ประกอบการรายใหม่กว่า 3,000 รายให้เกิดขึ้นได้" นายสุวรรณชัย กล่าว
ด้านนายปีเตอร์ หว่อง ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (Hong Kong Trade Development Council หรือ HKTDC) เปิดเผยว่า ได้เล็งเห็นความสำคัญของศักยภาพในการเติบโตของกลุ่มเอสเอ็มอีไทยที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง HKTDC จึงวางเป้าหมายที่จะส่งเสริมผู้ประกอบการในกลุ่มงานสร้างสรรค์ โดยเฉพาะเอสเอ็มอีในประเทศไทย ซึ่งมีความสามารถเด่นทางด้านความคิดสร้างสรรค์ มีการนำนวัตกรรม และไอเดียใหม่ ๆ มาใช้ในผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีฝีมือในการผลิตที่เป็นที่ยอมรับจากคนทั่วโลก
"ฮ่องกงถือเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการส่งออกสินค้าของประเทศไทย โดยถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และมาเลเซีย แม้จะมีประชากรเพียง 7 ล้านคน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ฮ่องกงเป็นแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพสำหรับสินค้าไทยที่จะส่งออกไปทั่วโลก โดย HKTDC มีความยินดีที่จะร่วมเป็นแพลตฟอร์มในการนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการไทย ไปสู่ตลาดสากลผ่านศักยภาพของช่องทางการตลาดที่ฮ่องกงมี ซึ่งที่ผ่านมา โครงการ Thai AIM ประสบความสำเร็จและได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการคัดเลือกก็ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อ และผู้เยี่ยมชมในงานจัดแสดงสินค้าที่ฮ่องกงเช่นกัน" นายหว่อง กล่าว
ขณะที่นายเจษฎา วงศ์ฟูเฟื่องขจร ผู้จัดการสาขา ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ กล่าวถึงการที่ห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์ เข้ามาผู้สนับสนุนการแข่งขันเป็นปีแรกว่า "ทางห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์ ได้ร่วมสนับสนุนพื้นที่ สำหรับการแสดงและจัดจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ลองทดลองตลาดเพื่อจำหน่ายสินค้าของตนภายในประเทศ ก่อนที่จะไปแข่งขันรอบต่อไปในงานแสดงสินค้านานาชาติทั้งสองงานในฮ่องกง
ทั้งนี้ทางเรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้จัดงานร่วมของโครงการ Thai AIM เพราะห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์เป็นที่รู้จักในเรื่องสินค้าครีเอทีฟ และประเทศไทยเองก็เป็นแหล่งความคิดสร้างสรรค์ โครงการนี้จึงถือว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยค้นหาพรสวรรค์ของนักออกแบบที่ซ่อนอยู่ในประเทศไทย ซึ่งทางห้างสรรพสินค้าเซน เซ็นทรัลเวิลด์ จะเตรียมพื้นที่ในการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าของผู้ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมให้กับแบรนด์ของเอสเอ็มอีและนักออกแบบก่อนเข้าสู่เวทีระดับโลก"
นายเคนดริก โค ผู้จัดการประจำประเทศไทย สายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า ปีนี้เป็น ปีที่ 5 ติดต่อกัน ที่ทางสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิค ได้ให้การสนับสนุนโครงการ โดยทางสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิคจะเป็นผู้สนับสนุนในการนำผู้ชนะจากการประกวดโครงการ Thai AIM บินไปชมงาน 'DesignInspire' งานแสดงสินค้าด้านดีไซน์ระดับโลกที่ฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ทางสายการบิน คาเธ่ย์ แปซิฟิครู้สึกประทับใจในคุณภาพของสินค้าไทยจากงาน Thai AIM มาตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปีล่าสุด มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ โดยทางสายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิค มีเที่ยวบินตรงไปฮ่องกงวันละ 9 - 10 เที่ยว พร้อมที่จะเชื่อมต่อนักเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางยังเมืองต่าง ๆ กว่า 207 แห่งทั่วโลก โดยมีเส้นทางสู่ประเทศจีนมากถึง 29 เมือง ที่จะสามารถนำบริษัทไทยไปสู่ตลาดโลกต่อไป
"ทั้งนี้ สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค ยังมีโปรแกรม Business Plus ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้บริษัทสามารถจัดการการเดินทางได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว และทำให้บริษัทได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการเดินทางเพื่อธุรกิจ" นายเคนดริก กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) หรือ โทร. 02-343-9000 ในวันเวลาทำการ รวมทั้งผู้สมัครสามารถส่งผลงานได้ที่ thaiaim2018@gmail.com ตั้งแต่วันนี้ ถึง 15 มกราคม ศกหน้า