กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--ปภ.
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ระวังอุบัติภัยขณะพาบุตรหลานท่องเที่ยว ในวันเด็กแห่งชาติ แนะให้เขียนชื่อ — ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ผู้ปกครองใส่กระเป๋าเด็ก เพื่อป้องกันการพลัดหลง ขณะเดินทางควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ สำหรับเด็กที่อยู่บ้าน ไม่ควรเล่นโลดโผน ไม่ประกอบกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอันตราย เพื่อป้องกันอุบัติภัยที่เกิดขึ้นกับเด็ก
นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า วันเด็กแห่งชาติปีนี้ตรงกับวันเสารที่ 12 มกราคม 2551 หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น ซึ่งการพาเด็กไปเที่ยวงานวันเด็กและร่วมกิจกรรมวันเด็กโดยขาดความระมัดระวัง อาจก่อให้เกิดอุบัติภัยต่างๆ ขึ้นได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนอุบัติภัยที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ดังนี้ การพลัดหลงกับผู้ปกครอง ก่อนออกจากบ้านควรจดชื่อและที่อยู่ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกงของเด็ก หากเด็กพลัดหลงกับผู้ปกครองจะได้โทรศัพท์ตามผู้ปกครองมารับเด็กได้ รวมทั้งสอนให้เด็กไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ที่อยู่ภายในงานให้ประกาศตามหาพ่อแม่มารับตัวเด็ก และนัดสถานที่นัดพบไว้หากเกิดการพลัดหลง ส่วนผู้ปกครองควรนำรูปถ่ายของเด็ก พร้อมจดจำรูปพรรณสัณฐานของเด็กให้แม่นยำ เพื่อให้ประชาสัมพันธ์หาตัวเด็กได้อย่างรวดเร็ว อุบัติเหตุทางถนน ในระหว่างการพาเด็กมาร่วมงานหรือกลับบ้าน หากเป็นยานพาหนะส่วนตัว ควรใช้ความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ ไม่ขับรถเร็ว ควรให้เด็กคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง หากเป็นเด็กเล็ก ควรให้นั่งบนเก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ถ้าเป็นเด็กโตควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง กรณีโดยสารรถสาธารณะ ควรให้เด็กขึ้นรถก่อน และไม่ปล่อยให้เด็กห้อยโหนออกมานอกรถ ไม่แย่งกันขึ้นหรือลงจากรถ และขณะลงรถผู้ปกครองควรมองทางด้านซ้ายจนแน่ใจว่าไม่มีรถ จึงค่อยพาเด็กลงจากรถ เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกรถเฉี่ยวชน หากเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ผู้ปกครองควรให้เด็กสวมใส่หมวกนิรภัยสำหรับเด็กทุกครั้ง ที่สำคัญผู้ปกครองควรสอนเด็กให้รู้วิธีการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ข้ามถนนด้วยสะพานลอยหรือตรงทางม้าลายทุกครั้ง สำหรับเด็กที่ไม่ได้ไปร่วมงาน แต่เล่นอยู่ที่บ้านหรือบริเวณชุมชนละแวกหมู่บ้าน ผู้ปกครองควรดูแลการเล่นของเด็กอย่างใกล้ชิด สอนให้เด็กเล่นกันด้วยความระมัดระวัง ไม่เล่นพาดโพน และไม่นำของเล่นที่เป็นอันตรายมาเล่นกันอย่างเด็ดขาด เช่น มีด ปืนอัดลม พลุ เป็นต้น เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ตลอดจนสอนให้เด็กไม่ลงไปเล่นน้ำในบ่อ คลองหรือแหล่งน้ำในหมู่บ้าน เนื่องจากอาจจมน้ำเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ ควรสอนให้เด็กรู้วิธีการป้องกันอันตราย และวิธีปฏิบัติตนที่ถูกต้องปลอดภัย จากอันตรายที่อาจเกิดขึ้นทุกรูปแบบ เพื่อให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างมีศักยภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป